นนทบุรี 27 ธ.ค. – กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการค้าชายแดนช่วง 11 เดือนแรกปีนี้ สูงกว่า 1.33 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.2 ระบุแม้ทั้งปีจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะยังโตสวนทางการค้าของโลก ขณะที่ปีหน้ามั่นใจการค้าชายแดนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 2-3
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนช่วง 11 เดือนของปี 2559 (ม.ค.- พ.ย.) มีมูลค่า 1.33 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวสวนทางการค้าโลกที่ค่าเฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ยังติดลบถึงร้อยละ 4 คาดว่าทั้งปีจะมีมูลค่าประมาณ 1.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 86.5 ของเป้าหมายปี 2559 ที่ตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านล้านบาท มีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 2.8 จากปี 2558 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
สำหรับปี 2560 กรมการค้าต่างประเทศจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ในการขยายการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีแผนผลักดันให้มีการพัฒนาด่านใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ด่านบ้านแหลม ด้านบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี เชื่อมโยงการค้าไทยกับกัมพูชาเข้าไปถึงจังหวัดพระตะบองและจังหวัดไพลิน ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถเชื่อมเข้าไปยังเมืองมะริด ของเมียนมาร์ และด่านท่าลี่ จังหวัดเลย ที่เชื่อมเข้าไปยัง สปป.ลาว
ส่วนด่านเดิมที่มีการเปิดทำการอยู่แล้ว เช่น ด่านแม่สอด จังหวัดตาก ก็จะสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยตามแนวชายแดนกับผู้ประกอบการของเพื่อนบ้าน เพื่อกระจายสินค้าไทยให้เข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งจะเดินหน้าโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือโครงการ YEN-D Program (เย็น-ดี โปรแกรม) ซีซั่น 3 โดยจะเริ่มโครงการไตรมาสแรกปี 2560 ซึ่งจะให้ความสำคัญกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ของเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อสร้างโอกาสขยายการค้าชายแดน
นอกจากนี้ ยังจะผลักดันให้ใช้ “เลยโมเดล” ในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยในจังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ติดชายแดนให้มีโอกาสทำการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า เปลี่ยนถ่ายสินค้า ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้าชายแดน
ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนปีหน้าจะยังขยายตัวร้อยละ 2-3 แต่มูลค่าที่ชัดเจนยังต้องรอสรุปจาก คณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะประชุมประเมินเป้าหมายอีกครั้งต้นปีหน้า.-สำนักข่าวไทย