บขส. 10 มี.ค. – รมช.คมนาคมสั่ง บขส.ปรับตัวเพิ่มรายได้ ขยายธุรกิจขนส่งสินค้า-ท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้โตร้อยละ 10 หวังแก้ปัญหารถตู้โดยสารตั้งสหกรณ์-นิติบุคคล เดินหน้านำร่องเปลี่ยนรถตู้ร่วม บขส.เป็นมินิบัส 55 คัน 13 เส้นทาง ดีเดย์ 1 กรกฎาคมนี้
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายผู้บริหารบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการให้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ จึงได้มอบนโยบาย ให้เร่งจัดตั้งสหกรณ์รถตู้ร่วมโดยสาร บขส.สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่วิ่งให้บริการขณะนี้ เนื่องจากหากเป็นสหกรณ์หรือนิติบุคคลจะมีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในการให้บริการผู้โดยสารมากกว่าผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนี้ ให้นำร่องปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารมาเป็นรถมินิบัสก่อน 55 คันใน 13 เส้นทาง โดยให้มินิบัสเริ่มวิ่งให้บริการวันที่ 1 กรกฎาคม 2560
นอกจากนี้ ให้เร่งดำเนินการขยายธุรกิจในขอบข่ายที่ บขส.ให้บริการอยู่โดยเฉพาะเพิ่มเส้นทางที่วิ่งให้บริการระหว่างประเทศจากประเทศไทยไปประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศในอาเซียนจากเดิมวิ่งให้บริการในประเทศลาว 12 เส้นทางและกัมพูชา 2 เส้นทางก็ให้พิจารณาเพิ่มเส้นทางไปยังพม่าและจีน , เวียดนามและมาเลเซีย รวมถึงขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการรถโดยสารเพื่อสร้างผลการดำเนินงานและกำไรมากขึ้นโดยเฉพาะเพิ่มการขนส่งสินค้าทางรถโดยสาร จากปัจจุบันมีรายได้ในส่วนนี้ 120-140 ล้านบาทต่อปี หรือร้อยละ 2 จากรายได้ทั้งหมด 4,300 -4,400 ล้านบาทต่อปี ให้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10
นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้เพิ่มในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบัน บขส.มีรถโดยสารวิ่งให้บริการเส้นทางประจำอยู่แล้วก็ควรที่จะเพิ่มรายได้ โดยเปิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวในเส้นทางที่มีศักยภาพและ บขส.เป็นผู้ดำเนินการเอง สำหรับสาเหตุที่ต้องการให้เพิ่มและขยายธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบัน บขส.มีสินทรัพย์รวมกว่า 5,000 ล้านบาท แต่สร้างศักยภาพที่จะเพิ่มรายได้และกำไรต่ำมาก ประกอบกับธุรกิจการเดินรถโดยสารมีการแข่งขันมาก ดังนั้น จึงต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ และระยะยาว บขส. ต้องมีการปรับโครงสร้างที่จะแยกส่วนกำกับดูแลและการให้บริการรถโดยสารออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น จึงต้องเตรียมตัวเพื่อเตรียมพร้อมไว้
ส่วนความคืบหน้าการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำลังศึกษา ซึ่งภายใน 1-2เดือนนี้จะได้ข้อสรุป แต่คาดว่าการให้บริการผู้โดยสารจะยังอยู่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ.-สำนักข่าวไทย