นนทบุรี 14 มี.ค. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กำชับกรมการค้าภายในติดตามรายงานสินค้าเกษตรช่วงหน้าแล้งอย่างใกล้ชิด ขณะที่สินค้าโดยรวมผู้ประกอบการยังไม่ปรับขึ้นราคา มั่นใจเดือนเมษายนนี้โครงการธงฟ้าประชารัฐเกิดขึ้นแน่
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เตรียมพร้อมรับมือราคาสินค้าหากเกิดภาวะภัยแล้งในช่วง 1-2 เดือนนี้ว่า ยอมรับอาจมีสินค้า เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ราคาเปลี่ยนแปลงขึ้นบ้างตามการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล โดยให้รายงานแบบวันต่อวัน เพื่อให้ได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าทุกรายการอย่างใกล้ชิด ซึ่งกำชับว่าราคาสินค้าต้องขึ้นและลงอย่างสมเหตุสมผล และเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการปรับขึ้นราคาสินค้าเกษตรและเนื้อสัตว์อย่างผิดปกติ ส่วนราคาสินค้าในชีวิตประจำวันขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ส่วนการลอยตัวราคาน้ำตาลเดือนตุลาคมนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้น จึงยังไม่มีผลต่อราคาสินค้าโดยรวมแต่อย่างใด
ส่วนความคืบหน้าโครงการธงฟ้าประชารัฐที่จะจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดนั้น คาดว่าเดือนเมษายนนี้จะเปิดตัวจำหน่ายสินค้าตามโครงการธงฟ้าประชารัฐได้แน่นอน ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานกลุ่มผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ทั้ง 5 ราย อยู่ระหว่างผลิตสินค้าที่จะนำมาร่วมในโครงการดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว ดังนั้นคงให้เวลาผู้ประกอบการอีกระยะหนึ่ง เพราะแต่ละรายมีขั้นตอนและวิธีการผลิตสินค้า แต่เชื่อว่าเดือนเมษายนนี้จะเห็นสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพออกวางจำหน่ายตามโครงการธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศได้แน่นอน
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะมีแนวทางดูแลสินค้าผลไม้ไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติโดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยและชอบทานผลไม้ไทย ได้แก่ ทุเรียน ดังนั้น วันที่ 16 มีนาคมนี้ ตนและผู้บริหารของกรมการค้าภายในจะสำรวจพื้นที่จัดตั้งตลาดดึงดูด (Magnet Market) สินค้าทุเรียนจังหวัดเชียงใหม่ เพราะแม้ว่าพื้นที่เชียงใหม่จะไม่ใช่แหล่งผลิตผลไม้ทั้งทุเรียนและเงาะก็ตาม แต่เป็นแหล่งพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก จึงเหมาะสมที่จะพัฒนาตลาดดังกล่าว โดยกิจกรรมจะประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการจัดตั้ง Magnet Market สินค้าทุเรียน ของจังหวัดเชียงใหม่ และรับฟังการนำเสนอข้อมูลจากผู้ประกอบการ เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาตลาดเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมกันต่อไป คาดว่าภายในไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้จะสามารถเปิดจุดให้บริการสินค้าผลไม้ไทยแก่นักท่องเที่ยวได้ และกระทรวงพาณิชย์จะศึกษาหาพื้นที่เพื่อจัดทำตลาดลักษณะเช่นนี้ต่อไปในหลายจังหวัดเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย
