กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ภายใน 31 มีนาคม 2560 รถตู้โดยสารสาธารณะร่วมให้บริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือรถตู้ร่วมบริการ บขส. เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกคัน ต้องติดตั้ง GPS Tracking ส่วนรถตู้ที่ครบรอบต่ออายุทะเบียนในงวดเดือนมกราคม – มีนาคม ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถต่ออายุทะเบียนตามกำหนดเดิม การดำเนินการดังกล่าว เร็วกว่าเดิมที่ให้ติดตั้งให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเพื่อการควบคุมดูแลความปลอดภัยในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถตู้โดยสารสาธารณะที่พบว่ามีการใช้ความเร็วของรถเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำนวนที่สูงกว่ารถลักษณะอื่น
สำหรับรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่น รถลากจูง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ รถบรรทุกสาธารณะ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคล 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2562
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังดำเนินการมาตรการกำกับ ควบคุม ดูแล พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง จริงจัง เด็ดขาด ทันที ในทุกกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในการทางเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยประชาชนที่พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการจัดการปัญหาทันที
การให้รถโดยสารสาธารณะติดตั้ง GPS Tracking เป็นไปตาม โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ซึ่งเป็นการบังคับให้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน และรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้ง GPS Tracking ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ หรือเครื่องรูดใบขับขี่แสดงตัวตนพนักงานขับรถ พร้อมระบบการทำงาน Realtime online เชื่อมโยงกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อติดตามพฤติกรรมการเดินรถแบบ Realtime ทั้งพิกัด เส้นทาง ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และเพื่อประสิทธิภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย ได้ออกแบบระบบให้สามารถบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ทั้งกรมการขนส่งทางบก ผู้ประกอบการ เจ้าของรถ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่แบบ Realtime ผ่าน application “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลของรถเช่นเดียวกันกับข้อมูลที่แสดงผลในศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ฯ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมโดยสามารถแจ้งร้องเรียนทุกกรณีการให้บริการที่ผิดกฎหมายผ่านทาง application ดังกล่าวได้ด้วย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว มีพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงานพนักงานขับรถ ไม่มีการพักรถหรือเปลี่ยนคนขับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น -สำนักข่าวไทย