ทำเนียบฯ 9 ม.ค.-นายกฯ ระบุที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว มีมติตั้งสำนักงานบริหารจัดการข้าวครบวงจร กระทรวงพาณิชย์ พร้อมกำชับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ร่วมดูแลภาคการผลิต และขายข้าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่า ที่ประชุมฯ รับทราบสถานการณ์การส่งออกข้าว ซึ่งพบว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก โดยมีประเทศอินเดียเป็นอันดับหนึ่ง และยินดีกับข้าวหอมมะลิไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้อนุมัติตั้งสำนักงานบริหารจัดการข้าวครบวงจร กระทรวงพาณิชย์ และขอให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตกรและสหกรณ์ จับมือการทำงานร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นทั้งคนปลูกข้าวและคนขายข้าว
“ที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ได้ดูแลเกษตรกรเป็นอย่างดี มีมาตรการออกมาถึง 14 มาตรการ เป็นเงินหลายแสนล้านบาทแล้ว ซึ่งจำเป็นที่จะต้องดูแลเกษตกรในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่นปัจจุบันที่หลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และได้ฝากให้ที่ประชุม ไปศึกษาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน โดยที่รัฐบาลเป็นคนควบคุมดูแลและให้การช่วยเหลือ โดยไม่ใช้พื้นที่ป่า และแยกออกจากที่ดิน สปก. ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรที่ดินให้กับประชาชนในหลายพื้นที่มาแล้ว และในปีนี้ จะเร่งจัดสรรให้ครบทุกจังหวัด ซึ่งยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีแนวคิด จะขอความร่วมมือจากเอกชนที่มีที่ดินจำนวนมากและไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาร่วมมือกับรัฐบาลในรูปแบบประชารัฐ ให้เกษตรกรทำกิน โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุน ความรู้จากเอกชน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้จะต้องสร้างการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรในการเรียนรู้การเพาะปลูกอย่างเหมาะสม เพราะหากเมื่อมีปริมาณน้ำเพียงพอ ก็จะกลับมาปลูกข้าวอีกและพบกับปัญหาเดิม ดังนั้นจึงต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้นำร่อง เพราะรัฐบาลไม่สามารถใช้กฎหมายบังคับเกษตรกรได้ ทุกอย่างต้องมาจากความร่วมมือ ขณะที่นักการเมืองอย่ามาอ้างเหตุผลว่ารัฐบาลดูแลเกษตรกรไม่ดี เพราะที่ผ่านมากว่า 40 ปี ทำได้ดีหรือไม่ หากดีแล้ว ตนคงไม่ต้องเข้ามาทำในวันนี้.-สำนักข่าวไทย