กอร.รส.เตรียมเพิ่มช่องจุดคัดกรอง เร่งระบายประชาชน

สนามหลวง 14 พ.ย.-กอร.รส.เล็งเพิ่มช่องจุดคัดกรองเพื่อเร่งระบายประชาชนเข้ามาในพื้นที่ท้องสนามหลวง ขอให้ประชาชนทยอยเข้ามาเพื่อลดความแออัดในช่วงเช้า


พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง  (กอร.รส.) ว่า ที่ประชุมวันนี้กำชับเรื่องการเพิ่มช่องตรงจุดคัดกรอง ขยายเพิ่มเป็น 5ช่อง จากเดิม 2ช่อง เพื่อเร่งระบายจำนวนประชาชนที่ทยอยเดินทางเข้ามาภายในบริเวณท้องสนามหลวง ให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และขอความร่วมมือให้ประชาชนทยอยเดินทางเข้ามา ในช่วงเช้าขอให้เป็นประชาชนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลเดินทางเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพก่อน ส่วนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ขอให้เดินทางมาช่วงเย็น เพื่อลดความแออัด

พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาจากการประเมิน กอร.รส.พบว่าจะมีประชาชนเดินทางมาพร้อมกันตั้งแต่เช้ามืดจนถึง 07.00 น.เป็นจำนวนมากถึง 20,000 คน เฉลี่ยประชาชนที่สามารถเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ได้ชั่วโมงละ 2,000 คน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทำให้จำนวนคิวของประชาชนสะสมไปจนถึงช่วงเย็น จากสถิติที่พบคือ มาถึงท้องสนามหลวงตั้งแต่ 09.00 น.แต่ได้เข้าไปภายในพระบรมมหาราชวังเวลา 18.00 น. ขอให้ประชาชนทุกคนเข้าใจ ซึ่งเจ้าหน้าทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีผู้สูงอายุ ผู้พิการ ขอให้ทุกคนมีน้ำใจ เสียสละ แบ่งปันให้คนกลุ่มได้รับสิทธิ์ก่อนตามความเหมาะสม


สำหรับการจัดระเบียบเต็นท์ขณะนี้กำลังทยอยติดตั้งเต็นท์ทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อไม่ให้กระทบสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาต่อคิว โดยจะตั้งคณะกรรมขึ้นมาเพื่อพิจารณาจัดระบบเต็นท์ต่างๆ และการขอจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อถวายความจงรักภัคดีในพื้นที่จากหน่วยงานต่างๆซึ่งมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสม โดยใช้เกณฑ์ต้องเป็นกิจกรรมเชิดชูพระเกียรติ ไม่ส่งผลกระทบต่อการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

14-11-2559 15-25-15

ส่วนการพัฒนาจัดคิวผ่านระบบออนไลน์ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนจะนำมาใช้เมื่อใดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาถึงความเหมาะสม คำนึงถึงความพึงพอใจ และประโยชน์สูงสุดของประชาชนที่จะได้รับ


ขณะที่ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. กล่าวถึงการจัดกิจกรรมวันลอยกระทง เน้นย้ำงดจัดกิจกรรมรื่นเริง จัดแสดงมหรสพ แต่ประชาชนสามารถลอยกระทงได้ตามปกติ ในรูปแบบถวายความอาลัย นอกจากนี้ คสช.ได้เพิ่มมาตรการบทลงโทษสำหรับผู้ปล่อยบั้งไฟ จุดพลุ ตะไล โคมลอย หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน หากพบผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม