งานวันเด็ก ปี 60 ทำเนียบฯ คึกคัก

14-1-2560 13-04-07ทำเนียบฯ 14 ม.ค.- ทำเนียบฯ คึกคักผู้ปกครองนำเด็กร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ หวังพบนายกรัฐมนตรีตัวจริง ขณะที่ นายกรัฐมนตรีขอให้ปลูกฝังค่านิยมคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็ก เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560  ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้แนวคิด ดินแดนแห่งความสุขตามศาสตร์พระราชา พร้อมชมการแสดงโขนเด็ก ตอนยกไม่รบ จากกระทรวงวัฒนธรรม และการแสดงชุดศิลปะมวยไทย จากโรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง ที่ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีได้โชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทย ด้วยการเตะ ต่อย เข่า รวมถึง ถ่ายรูปหมู่กับตัวแทนนักกีฬาทีมชาติ

จากนั้น  เดินทักทายเด็กๆ และเยาวชน รวมถึง ผู้ปกครองที่มาร่วมงาน พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี เด็กพิการและด้อยโอกาสทางสังคม  และด็กๆ จากจังหวัดชายแดนภาคใต้  เข้าเยี่ยมคารวะ  นายกรัฐมนตรีได้พาเยี่ยมชมห้องทำงาน รวมทั้ง ห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้า และได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงานวันเด็กแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย


จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ชมการแสดงของเยาวชนจากเสถียรธรรมสถาน นำโดย น้องใบพลู วัย 4 ปี ที่ร่วมกันร้องเพลงต้นไม้ของพ่อ และเพลงราชาในนิทาน เวอร์ชั่นพิเศษ  พร้อมรีวิวภาษามือประกอบการขับร้อง   หลังเสร็จสิ้นการแสดง นายกรัฐมนตรีได้ขอหอมแก้มน้องใบพลู ก่อนจะขอให้น้องใบพลูหอมแก้มนายกรัฐมนตรีกลับด้วย

14-1-2560 13-37-16โอกาสนี้  นายกรัฐมนตรีได้ให้โอวาทกับเด็กและเยาวชน ภายในตึกสันติไมตรี ตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันแห่งอนาคต ที่เด็กต้องเรียนรู้ และได้รับการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติให้ได้โดยเร็ว ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้นำไปสู่สังคมเรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องพัฒนาขีดความสามารถ ตั้งแต่เด็กไปจนเติบใหญ่ ใช้หัวใจพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่สำคัญ เด็กๆ จะต้องมีคุณธรรม จริยธรรม โดยเริ่มจากเด็ก ครอบครัว โรงเรียนและศาสนา เพื่อนำไปสู่สังคมของคนที่มีคุณธรรม  และหวังว่า เยาวชนในวันนี้ เมื่อเติบโตขึ้น จะต้องมีงานทำ มีรายได้ที่พอเพียงต่อการดำรงชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลก็จะตั้งใจดำเนินการอย่างเต็มที่  ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพราะหากเยาวชนไม่มีคุณภาพ ในอนาคต ประเทศก็จะเป็นรัฐที่ไม่มีคุณภาพ


“ขอให้ช่วยกันสานต่อแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   ที่ได้พระราชทานไว้ให้กับคนไทย และเชื่อว่าพระองค์ทรงทอดพระเนตรคนไทยอยู่ตลอด จึงขอให้คนไทยยึดมั่นปฏิบัติตาม และที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็ก ทั้งเรื่องการศึกษา และการพัฒนาเด็กให้มีวินัย ซึ่งรัฐบาลจะเร่งทำอย่างเต็มที่ และจะผลักดันให้เด็กเข้าสู่ระบบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด” นายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเยี่ยมชมซุ้มกิจกรรมต่างๆ ที่หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น ก่อนจะร้องเพลงคืนความสุขให้คนในชาติ  เพลงสะพาน และเพลงคนดีไม่มีวันตาย ด้วย

14-1-2560 13-30-58ส่วนบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยความคึกคักอย่างมาก ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง ต่างก็ให้ความสนใจกับการเยี่ยมชมห้องทำงานนายกรัฐมนตรี เพื่อนั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรี  มีเด็กๆ และผู้ปกครองจำนวนมาก ต่อแถวเพื่อรอเยี่ยมชมห้องทำงานภายในตึกไทยคู่ฟ้า  เช่นเดียวกับสแตนดี้ขนาดเท่าตัวจริง ที่นายกรัฐมนตรีจัดทำขึ้นมา 12 ตัว ทั้งหมด 9 ท่า ไม่ว่าจะเป็นการทำท่ามินิฮาร์ท หรือ สัญลักษณ์ไอเลิฟยู รวมทั้ง ท่าทางการเล่นกีฬาชนิดต่างๆ ที่เป็นแบบฉบับของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่สนใจของทั้งเด็กๆและผู้ปกครอง มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหลายคนก็ยอมรับว่า ที่เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพราะอยากพบกับนายกรัฐมนตรีตัวจริง

นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้นำหุ่นจำลองไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ กว่า 20 ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนจากอุทยานไดโนเสาร์โลก ภูกุ้มข้าว พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น มาจัดแสดงบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ให้น้องๆ ได้เยี่ยมชม และศึกษาความเป็นมาของไดโนเสาร์ด้วย  ขณะที่ หน่วยงานราชการต่างๆ ก็ได้จัดซุ้มกิจกรรมมากมายให้เด็กๆ ได้ร่วมเล่นเกมส์ พร้อมแจกของรางวัลต่างๆมากมาย ทั้งขนม หนังสือและของเล่นให้กับน้องๆด้วย        .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย