นครศรีธรรมราช 16 ม.ค.-แม้สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้จะมีระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หลายหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือมรสุมระลอกใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดฝนตกในหลายพื้นที่ เช่นเดียวกับชาวบ้าน ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เตรียมยกของขึ้นที่สูง โดยตลอดทั้งวันนี้ มีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ขณะที่หลายฝ่ายเร่งผลักดันน้ำออกจากแม่น้ำปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
ที่ ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ทั้ง 10 หมู่บ้าน ท่วมขังแล้ว 2 รอบ ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม และปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบ รวมทั้งทรัพย์สินภายในบ้านที่ยกหนีน้ำไม่ทันได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ระดับน้ำคลี่คลายลงแล้วเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา จากระดับน้ำท่วมสูงเข้าบ้าน 60-70 ซม. ปัจจุบันลดลงเหลือ 10 ซม.แล้ว แม้ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านยังมีความกังวลกับมรสุมลูกใหม่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่า จะเกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดของภาคใต้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 18 มกราคมนี้ ซึ่งชาวบ้านไม่ชะล่าใจ เกรงทรัพย์สินจะได้รับได้รับความเสียหายเหมือนครั้งก่อน จึงได้ยกของขึ้นที่สูงไว้
พื้นที่ ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร เป็นพื้นที่รับน้ำจากทะเลน้อยและคลองสาขาต่างๆ เมื่อน้ำไหลผ่านคูคลองอย่างรวดเร็วแล้วจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เพราะในคลองมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้าและยากลำบาก กรมชลประทานจึงได้นำรถแบ็กโฮขุดลอกคูคลอง ลอกวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำ และขุดให้ลึกขึ้นเพื่อให้น้ำสามารถระบายออกได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนแนวทางการระบายน้ำ ขณะนี้กรมชลประทานได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือ ติดตั้งเรือผลักดันน้ำใน จ.นครศรีธรรมราช 3 จุด จุดแรก ที่สะพานคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง อ.หัวไทร จำนวน 30 ลำ จุดที่สอง สะพานคลองระบายน้ำฉุกเฉิน อ.ปากพนัง จำนวน 20 ลำ และจุดที่สาม ที่คลองหน้าโกฏิ อ.ปากพนัง จำนวน 20 ลำ รวมเรือผลักดันน้ำทั้งหมด 70 ลำ สามารถผลักดันน้ำจากแม่น้ำปากพนังลงสู่ทะเลอ่าวไทยได้ 7,000,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งตลอด 1 สัปดาห์ที่ได้ผลักดันน้ำ ช่วยให้ระดับน้ำลดลงแล้ว 80 ซม. และคาดว่าจะสามารถระบายให้ลดลงกลับสู่สภาวะปกติได้ภายในสัปดาห์นี้ หากฝนไม่ตกเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย