fbpx

มองกรณีครูจอมทรัพย์ เปิดข้อกฎหมายรื้อฟื้นคดีอาญา


กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-คดีครูจอมทรัพย์ ตกเป็นแพะคดีขับรถชนคนเสียชีวิต และมีการยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ ทำให้มีข้อเสนอควรให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมายเพิ่มขึ้น

16-1-2560 20-21-09 16-1-2560 20-21-25


คดีอดีตข้าราชการครูถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกเมื่อปี 56 จากเหตุขับรถชนผู้อื่นเสียชีวิตที่นครพนม เหตุเกิดเมื่อปี 48 และได้รับอภัยโทษเมื่อปี 58 รวมติดคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เธอยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และตกเป็นแพะในคดี จึงเดินหน้าเรียกร้องต่อกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอให้รื้อคดีขึ้นมาไต่สวนใหม่ ทำให้เกิดประเด็นสงสัยจากสังคมว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาแล้ว จะสามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้หรือไม่

16-1-2560 20-21-54 16-1-2560 20-22-20

โฆษกศาลยุติธรรมให้ข้อมูลว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวง อย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการผิดจริงและจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด จึงจะพิพากษา แต่เพื่อความเป็นธรรม ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 สาระสำคัญคือ คดีนั้นต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ซึ่งคดีครูแพะนี้ก็พิพากษาไปแล้วทั้ง 3 ศาล ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว และผู้ร้องได้ยื่นตามหลักเกณฑ์ที่ระบุว่า มีพยานหลักฐานใหม่ที่แสดงว่าไม่ได้ทำผิด เมื่อศาลเห็นว่ามีมูล จึงรับคำร้องไว้ เพื่อเปิดให้มีการไต่สวน ส่วนจะมีการสั่งให้รื้อฟื้นคดีหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน


16-1-2560 20-23-02 16-1-2560 20-23-28

ด้านอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษให้สัมภาษณว่า สำนวนการสอบสวนคดีครูแพะที่ตำรวจส่งให้อัยการ ที่ระบุว่าครูไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน จะให้การในชั้นศาล ทำให้ไม่มีพยานหลักฐานฝ่ายผู้ต้องหาปรากฏในสำนวน จึงมีคำแนะนำว่า หากตกเป็นผู้ต้องหา และไม่ได้ทำความผิด ควรต้องให้การในชั้นสอบสวน และยื่นพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าไปในสำนวนด้วย และตำรวจก็ต้องสอบพยานตามนั้น มิฉะนั้นจะถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อสำนวนถึงอัยการ ก็ยังสามารถร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ให้สอบสวนเพิ่มเติมได้อีก

ระหว่างปี 58 -59 ศาลยุติธรรมให้ข้อมูลว่า มีการขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่จำนวน 5 คดี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบพยาน รวมทั้งคดีครูจอมทรัพย์ ที่ศาลนัดสอบพยานต้นเดือนหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง