กทม.17 ม.ค.60 – ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ห่วง การวิพากษ์วิจารณ์กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขับรถชนคนตายขึ้นมาใหม่ อาจเป็นการล่วงละเมิดอำนาจศาล แนะอย่าด่วนสรุปว่าเป็นแพะจนกว่าศาลจะพิจารณาคำร้องเสร็จสิ้น
เรือโทสมนึก เสียงก้อง และนายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมนายเจษฎา อรุณชัยภิรมย์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 แถลงความคืบหน้ากรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดสกลนคร ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 2556 ฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เหตุเกิดวันที่ 11 มีนาคม 2548 และได้รับการอภัยโทษเมื่อปี 2558 รวมติดคุก 1 ปี 6 เดือน ต่อมาวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 นางจอมทรัพย์ ได้ร้องขอต่อศาลจังหวัดนครพนม ขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้ตรวจสำนวนมีคำสั่งรับคำร้องขอรื้อฟื้นคดี และให้ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดนครพนม) ดำเนินการพิจารณาคดี โดยมีการนัดสืบพยานเมื่อวานนี้(16 ม.ค.) แต่ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน เนื่องจากไม่มีพยาน ศาลจังหวัดนครพนม จึงนัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้นั้น เรือโทสมนึก กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ขอชี้แจง ทำความเข้าใจว่า คำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษา ว่านางจอมทรัพย์ มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือและแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ โดยจำคุกนางจอมทรัพย์ 3 ปี 2 เดือนนั้น ยังมีผลคำพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมายอยู่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้รับคำร้องขอรื้อฟื้นคดีอาญาของนางจอมทรัพย์ ปรากฏว่า มีการแสดงความคิดเห็นของบุคคลต่างๆทางสื่อมวลชนอย่างแพร่หลาย ขณะนี้อยู่ระหว่างนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องและพนักงานอัยการผู้คัดค้านตามกฏหมาย ซึ่งได้นัดสืบพยานวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ เมื่อศาลจังหวัดนครพนมดำเนินการพิจารณาเสร็จจะทำ ความเห็นส่งสำนวนไปให้ศาลฎีกา พิจารณาว่าจะยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีอาญาใหม่หรือเพิกถอนคำพิพากษาศาลฎีกาเดิมที่พิพากษาว่านางจอมทรัพย์ กระทำผิดและเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการเยียวยาซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาใหม่ ดังนั้นในชั้นนี้การรือฟื้นคดีอาญาอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล จึงไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ หรือมีความเห็นใดๆเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ เพราะจะเป็นการก้าวล่วงและละเมิดกระบวนการพิจารณาของศาล ยืนยันคำพิพากษาศาลฎีกา ที่สั่งจำคุก 3 ปี 2 เดือน และนางจอมทรัพย์ได้รับโทษจนพ้นโทษแล้วนั้น เป็นคำพิพากษาที่ยังมีผลผูกพันและชอบด้วยกฎหมาย
ด้านนายประยุทธ ยืนยันการทำงานของพนักงานอัยการ มีการตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียดรอบคอบก่อน และพิจารณาตามพยานหลักฐาน จนศาลฎีกาเห็นพ้องและมีคำพิพากษาจำคุกนางจอมทรัพย์ และต้องการสื่อสารทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบกระบวนการยุติธรรมทางกฏหมายขอประชาชน อย่าด่วนสรุป ว่าเป็นการจับแพะหรือไม่ เนื่องจากอาจล่วงละเมิดอำนาจศาล อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา คดีที่เข้าสู่กระบวนการขอรื้อฟื้นคดีและมีการเพิกถอนคำพิพากษาที่ผ่านมา มีเพียงคดีเชอรี่แอน ดันแคน เพียงคดีเดียว.-สำนักข่าวไทย