กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ว่า หน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวงฯ สำรวจความเสียหาย พบว่าล่าสุด (16 ม.ค.60) มีโรงงานที่ได้รับความเสียหาย 81 ราย เหมืองแร่ 2 ราย ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 43 ล้านบาท
นายสมชาย กล่าวว่า กระทรวงฯ จัดเตรียมแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมเปิดสายด่วน 1564 เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำโรงงานที่ประสบอุทกภัย เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติความปลอดภัยในโรงงาน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ มาตรการจัดการสารเคมี มาตรการจัดการกากอุตสาหกรรม มาตรการป้องกันอุปกรณ์เครื่องจักร และมาตรการป้องกันระบบไฟฟ้า ตลอดจนการยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ค่าธรรมเนียมรายปีให้กับโรงงานจำพวกที่ 2 และ 3 ในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนแผนระยะยาว กระทรวงฯ เตรียม 3 โครงการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ 1.โครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งจะรับบริการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรเพื่อแปลงเครื่องจักรเป็นทุน ตั้งเป้าหมายไม่น้อยกว่า 500 ราย โดยจะอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรผ่านช่องทางพิเศษ 2.โครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีจะให้บริการคำปรึกษา แนะนำเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการในการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ตั้งเป้าหมาย 1,000 ราย โดยพร้อมประสานงานกับสถาบันการเงินให้ด้วย และ 3.โครงการ Thailand Spring Up ก้าวกระโดดประเทศไทย ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่ากากอุตสาหกรรมให้กับเอสเอ็มอี หลังน้ำลด
สำหรับมาตรการที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เตรียมไว้ เพื่อเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ 1.การพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้าของธนาคาร โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาใกล้บ้าน และ 2.การให้วงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการ วงเงินต่อรายสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี โดยปลอดชำระคืนเงินต้นในช่วง 1 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน MLR ตลอดอายุสัญญา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการฟื้นฟู ซ่อมแซม ทำความสะอาดสถานประกอบการ หรือลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร สำหรับลูกค้าของธนาคารใน 12 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ ระนอง และประจวบคีรีขันธ์
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชน 43 ราย บริจาคเงินให้กับโครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” เข้า “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย” จำนวน 27 ล้านบาท ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ ยังบริจาคสิ่งของอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นจัดส่งไปเบื้องต้นแล้วก่อนหน้านี้ เช่น ข้าวสาร 1,000 ถุง น้ำดื่ม 4,000 โหล และเงินเพื่อนำไปซื้อข้าวกล่องให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย.-สำนักข่าวไทย