ตลท.-สภาธุรกิจตลาดทุนไทยมั่นใจปัญหาผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อีไม่ลุกลาม

กรุงเทพฯ  18 ม.ค. – นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงปัญหาบริษัทหลายแห่งผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินหรือบี/อี ว่า เกิดขึ้นกับบริษัทเฉพาะแห่ง ไม่ใช่ปัญหาลุกลามทั้งระบบ โดย ตลท.ยืนยันว่าระบบของตลาดทุนมีความแข็งแกร่งและจะไม่เกิดปัญหาวิกฤติเหมือนปี 2540 อย่างแน่นอน โดย ตลท.ย้ำเตือนบริษัทจดทะเบียนที่ออกตั๋วบี/อี ให้มีความระมัดระวังและเตรียมสภาพคล่องและเงินทุนให้เพียงพอเพื่อรองรับการครบกำหนดไถ่ถอนในกรณีที่นักลงทุนไม่ประสงค์จะลงทุนต่อ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น  ขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก หรือกังวลจนเกิดภาวะการไม่ต่ออายุตั๋วบี/อี จนอาจจะทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ


“ตลท.ขอย้ำว่าบริษัทที่ออกตั๋วบี/อี ไม่ได้จะผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเฉพาะแห่ง ซึ่งตลท.ติดตามและขอข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนที่เกิดขึ้นปัญหาให้แจ้งข้อมูลโดยเร็ว เพื่อให้นักลงทุนใช้ในการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทที่ออกตั๋วบี/อี ประมาณ ร้อยละ 75 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนอีกร้อยละ 25 เป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาการออกตั๋วบี/อี เป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่อง” นางเกศรา กล่าว

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย  มั่นใจว่า การผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี ไม่ลุกลาม เป็นปัญหาเฉพาะบางบริษัทในวงเงินไม่มาก และส่วนที่จำหน่ายผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ก็มีเพียงไม่กี่บริษัท สัดส่วนการลงทุนน้อยและส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้มีการจัดอันดับเครดิต (unrated) ซึ่งเสนอขายได้เฉพาะในวงแคบต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนที่ไม่ใช่รายย่อยเท่านั้น ดังนั้น จึงไม่น่ากังวล


อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่ไม่เข้าใจ จนอาจจะกระทบต่อบริษัทที่จะมีการออกตั๋วบี/อี ใหม่  ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุน ดังนั้น บริษัทอาจจะต้องใช้การระดมทุนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์

นางวรวรรณ กล่าวด้วยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  กำลังศึกษา เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้บริษัทจดทะเบียนใช้ตั๋วบี/อี ตรงตามวัตถุประสงค์ คือ เพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทหลายแห่งใช้ตั๋วบี/อี ผิดวัตถุประสงค์เป็นการระดมทุนระยะสั้น เพื่อไปใช้หนี้เงินกู้ระยะยาว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาพรวมการลงทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท