สำนักงานป.ป.ช. 19 ม.ค.-ประธานป.ป.ช.เผยมอบหมายสำนักตปท.ประสานข้อมูลอังกฤษ-สหรัฐ-การบินไทย กรณีโรลส์-รอยซ์ติดสินบนระหว่างปี 2534-2548 ยอมรับพบการสั่งซื้อ 3 ครั้ง บางคดีอาจหมดอายุความ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีบริษัทโรลส์-รอยซ์ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษว่าได้จ่ายสินบนให้หลายประเทศที่ซื้อขายเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ รวมถึงประเทศไทยในปี 2534 – 2548 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ได้หารือและมอบหมายให้ดำเนินการ 2 แนวทางคือ ให้สำนักการต่างประเทศของสำนักงานป.ป.ช. ประสานสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ เพื่อขอข้อมูลมาตรวจสอบ รวมถึงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
“นอกจากนี้มอบสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ประสานกับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบข้อมูลด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นที่ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่า มีการสั่งซื้อจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งบางครั้งผ่านมาแล้วเป็นระยะเวลายาวนานที่อาจขาดอายุความในการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องดูเอกสารที่ขอไป จึงจะเห็นรายละเอียดที่ชัดเจน” ประธานป.ป.ช. กล่าว
ส่วนกรณีสำนักงานปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษเปิดเผยว่ามีการให้สินบนจะมัดตัวผู้กระทำความผิดได้เลยหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า กฎหมายอาจจะคล้ายกัน แต่รายละเอียดอาจจะแตกต่างกัน จึงต้องพิจารณาปรับใช้กับกฎหมายของเรา ต้องพิจารณารายละเอียดจริง ๆ อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร เพราะเป็นห่วงว่าบางเรื่องอาจจะขาดอายุความไปแล้ว หากกรณีใดขาดอายุความไปแล้วจะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
“แต่ข้อมูลเบื้องต้นบางกรณียังอยู่ในอายุความ นอกจากนี้ต้องไปดูรายละเอียดกรณีที่ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องรับสินบนพ้นจากตำแหน่งไปแล้วด้วย เนื่องจากเงื่อนไขของกฎหมายป.ป.ช.กำหนดระยะเวลาที่ป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาพิจารณาด้วยเหตุอันควรสงสัย หรือมีผู้มีร้องทุกข์กล่าวโทษ และถ้ามีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงบริษัทการบินไทย จำกัดที่ได้รับความเสียหายอาจจะมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับป.ป.ช.” ประธานป.ป.ช. กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อมูลเบื้องต้นสามารถสันนิษฐานได้หรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า จะสันนิษฐานอย่างนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นเอกสารที่ประสานขอไป เมื่อได้รับจะต้องนำมาตรวจสอบ ถ้ามีมูลเพียงพอที่จะรับไต่สวนได้ก็จะดำเนินการ ขณะที่บอร์ดการบินไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะทำงานร่วมกับป.ป.ช..-สำนักข่าวไทย