ภูมิภาค 20 ม.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยฟื้นฟู แต่ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง
ที่ จ.ยะลา ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากใน 4 ตำบล อ.เมืองยะลา ถูกน้ำท่วมขังเส้นทางคมนาคมหลายจุด รวมถึงโรงเรียนบางโรงต้องประกาศปิดเรียนไม่มีกำหนด เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมภายในโรงเรียน ขณะที่ อ.รามัน น้ำกัดเซาะถนน เส้นทางตั้งแต่แยกตะโละหะลอ อ.รามัน ถึง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รถเล็กผ่านไม่ได้ ชาวบ้านต้องใช้เส้นทางลัดบ้านบึงน้ำใสสัญจรแทนชั่วคราว
ขณะที่คลื่นลมแรงในทะเลสาบซัดเข้าชายหาดแสนสุขลำปำ อ.เมืองพัทลุง และทะลักข้ามคันกั้นน้ำ เอ่อท่วมร้านค้าและถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ร้านค้า 28 ร้านต้องปิดกิจการ เจ้าของร้านเร่งเก็บข้าวของอพยพหนีน้ำออกนอกพื้นที่ ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังนานจนเกิดการเน่าเสียบริเวณหมู่บ้านติดริมทะเลสาบ ผู้ว่าฯ พัทลุง นำเจ้าหน้าที่เทน้ำหมักชีวภาพเพื่อบำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นเหม็น
ด้าน จ.นราธิวาส ยังมีฝนตกต่อเนื่อง พื้นที่หลายแห่งมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมตามถนนสายหลัก สายรอง เนื่องจากท่อระบายน้ำมีปัญหาอุดตัน ระบายน้ำไม่ทัน ส่งผลให้น้ำเอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ส่วนโรงเรียนในเขตเทศบาลเมือง บางแห่งประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากพื้นที่รอบโรงเรียนมีน้ำท่วมขัง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอ จ.ตรัง กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลายหน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนผู้ประสบภัยที่เสียหาย เช่น บ้านของชาวบ้านหมู่ 4 ต.บางรัก อ.เมือง กระเบื้องมุงหลังคา ประตูหน้าต่างแตก และมีคราบดินโคลนเต็มบ้าน เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร นานกว่า 15 วัน กลุ่มนักศึกษาอาชีวะจาก กศน.จังหวัดพิษณุโลก จึงลงพื้นที่ช่วยซ่อมแซมและทำความสะอาดบ้าน
ด้าน พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจคณะครูอาจารย์ในโครงการอาชีวะช่วยเหลือประชาชน และผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้มีโรงเรียนกว่า 1,000 โรง ได้รับผลกระทบ แต่ที่ จ.นครศรีธรรมราช สามารถเปิดการเรียนการสอนครบทุกโรงเรียนแล้ว เหลือเพียง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ยังเปิดการเรียนการสอนได้ไม่ครบทุกโรงเรียน และจากนี้จะเร่งฟื้นฟูจัดระเบียบการสอนชดเชยให้เด็กครบตามจำนวนเวลาเรียน
ส่วนธารน้ำใจยังหลั่งไหลช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบสิ่งของที่อาคารปฏิบัติการ บมจ.อสมท สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 9 และที่สำนักงาน บมจ.อสมท สำนักงานภาคใต้ รวมถึงบริจาคเงินที่บัญชี “อสมท ช่วยผู้ประสบภัย สานใจประชารัฐ” ธนาคารกรุงไทย สาขาอโศก เลขที่ 015-0-21738-2 ประเภทบัญชีออมทรัพย์ และ 3 เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้งทรูมูฟ, เอไอเอส และดีแทค โดยยอดเงินบริจาค ณ เวลา 10.00 น. วันนี้ อยู่ที่กว่า 23 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย