fbpx

รื้อฟื้นคดีชายหูหนวกฆ่าคนตาย


สิงห์บุรี 21 ม.ค.-คดีตำรวจบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี จับกุมชายพิการหูหนวก ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเมื่อปี 2551 ซึ่งศาลสั่งจำคุก 20 ปี และจำคุกไปแล้วกว่า 5 ปี แม่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมจากดีเอสไอ จนเจ้าหน้าที่จับคนร้ายตัวจริงได้ และนำไปสู่การรื้อคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่

e1 e2


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย อสมท เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 ต.บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการขอรื้อฟื้นคดีของนายพัสกร สิงคิ อายุ 29 ปี ลูกชายของ นางเสนาะ สิงคิ หลังถูกตำรวจบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี จับกุมข้อร่วมกันฆ่าผู้อื่นเมื่อเดือนมีนาคม 2551 นางเสนาะเล่าว่า วันเกิดเหตุตนและลูกชาย คือนายพัสกร ซึ่งพิการหูหนวก ไปร่วมงานบวชภายในหมู่บ้าน ระหว่างนั้นมีวัยรุ่นทะเลาะกันตนจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ส่วนนายพัสกรขี่รถจักยานยนต์อีกคันตามมา เมื่อถึงบ้านตำรวจมาแจ้งว่านายพัสกรก่อเหตุฆ่าคนอื่น ตนจึงต้องเป็นล่ามภาษามือให้การและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่พนักงานสอบสวนใช้พยานบุคคลที่เห็นเหตุการ โดยยืนยันนายพัสกรเป็นคนร้าย ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฏิกา ตัดสินจำคุก 20 ปี และถูกจำคุกนานกว่า 5 ปี ระหว่างนั้นไปร้องดีเอสไอ จนสามารถจับคนร้ายตัวจริงและมีหลักฐานอื่นมาประกอบ

e3 e5

เบื้องต้นผู้ต้องหาตัวจริงรับสารภาพศาลพิพากษาจำคุก 12 ปี และเดือนมิถุนายน 2558 ดีเอสไอ นำหลักฐานขอรื้อฟื้นคดีใหม่ต่อศาลอุธรณ์ภาค 1 และมีคำสั่งให้รับคำร้อง และให้ศาลชั้นต้นพิจารณา ตาม พรบ.รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ และลงความเห็นส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาพิจารณาใหม่ ขณะเดียวกันทนายยื่นเรื่องขอประกันนายพัสกรแต่เนื่องจากมีฐานะยากจน จึงให้เงินจากกองทุนยุติธรรม 700,000 บาท ประกันตัวนายพัสกรออกมา และทุกเดือนต้องไปรายงานตัว จนกว่าคำพิพากษาจะมีผลระหว่างสู้คดีต้องนำที่ดินไปจำนอง เพื่อหาเงินมาจ้างทนายความสู้คดีที่ลูกชายตนไม่ได้ก่อขึ้น ระหว่างสัมภาษณ์นางเสนาะให้ลูกชายพิการหูหนวกอ่านริมฝีปากขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553