ทำเนียบฯ 25 ม.ค.-นายกฯ ประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงแผนปฏิบัติการช่วยเหลือและแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานกองบัญชาการป้องและบรรเทาสาธารณภัยชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้เริ่มคลี่คลาย แต่ในบางพื้นที่อาจจะยังคงมีสภาวะน้ำท่วมอยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเชิญทุกฝ่ายมาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางและแผนการปฏิบัติต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล และการฟื้นฟูหลังจากที่สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการติดตามและมอบหมายภารกิจให้แต่ละหน่วยงานลงไปปฏิบัติเพื่อดูแลประชาชนในทุกพื้นที่แล้ว แต่ยังจำเป็นที่จะต้องลงพื้นที่ เพื่อติดตามกำกับดูแลการทำงานของทุกหน่วยงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สาระสำคัญในการประชุมร่วมกันวันนี้ ก็คือการฟื้นฟูในด้านต่าง ๆ ภายหลังน้ำลด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นไปตามกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแนวทางการดูแลประชาชนไว้ว่า จะต้องจัดทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดให้ประชาชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วและกำหนดการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจสำคัญของรัฐบาล ว่า คือการเร่งฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว และการจัดทำแผนงานต่าง ๆ ให้ชัดเจน ตรงกับสายบังคับบัญชา ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้สถานการณ์ในภาคใต้เป็นภัยพิบัติระดับ 3 โดยมีกองบัญชาการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติดูแล เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกับกองบัญชาการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า ที่มีศูนย์ปฏิบัติงานอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันพรุ่งนี้(26 ม.ค.)ตนและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่เพื่อไปติดตามสถานการณ์พร้อมรับฟังผลการดำเนินงานล่าสุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดบูรณาการการทำงาน ในทุกระดับ เพื่อจัดสรรงบประมาณให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย