กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – กรมชลประทานเผยหลายพื้นที่ภาคใต้เข้าสู่ภาวะปกติ เหลือน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ยังคงระบายน้ำท่วมขังตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทานยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีระดับน้ำในแม่น้ำตาปีบริเวณ อ.เคียนชา และ อ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คงเหลือน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำประมาณ 16,500 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 40 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะลดลงตามระดับน้ำในแม่น้ำตาปี กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วัน
ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตอนล่างมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 551 ล้านลูกบาศก์เมตร มีแนวโน้มลดลงแล้ว รวมเครื่องจักรเครื่องมือที่กรมชลประทานได้ส่งไปสนับสนุนการระบายน้ำในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช เครื่องสูบน้ำ 113 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 69 เครื่อง และกองทัพเรือสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ 60 ลำ สำหรับเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด ขณะที่จังหวัดสงขลายังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร แนวโน้มน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรว่างเปล่า ประมาณ 37,000 ไร่ คงเหลือปริมาณน้ำท่วมขังประมาณ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 18 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 11 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องสำหรับจังหวัดนราธิวาสระดับน้ำที่สะพานลันตู อำเภอสุไหงโก-ลก สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.06 เมตร คาดว่าจะลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ประมาณวันที่ 30 มกราคม 2560 โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำร่วมกับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าอีก 6 สถานี
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้กรมชลประทานยังคงเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมเครื่องจักร เครื่องมือที่จัดส่งเข้าไปติดตั้งช่วยเหลือการระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้ เครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการ 180 เครื่อง สำรองไว้ 447 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำออกปฏิบัติการ 112 เครื่อง สำรองไว้ 51 เครื่อง สถานีสูบน้ำถาวร 11 สถานี และรถขุดตัก 15 คัน สำรองไว้ 85 คัน.-สำนักข่าวไทย