มีชัย เล็งติดดาบศาลฎีกาฯ พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ แก้ปัญหาหลบหนีคดี

808รัฐสภา 31 ม.ค.-“มีชัย” เล็งติดดาบศาลฎีกานักการเมือง พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้แก้ปัญหาหลบหนีคดี แนะร่างกฎหมายคุ้มครองสื่อควรให้สื่อมีส่วนร่วม ขณะกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติใกล้เสร็จแล้วเตรียมส่งรัฐบาล


นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ กรธ.จะเชิญผู้แทนจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาหารือว่าเบื้องต้นทางศาลได้เสนอให้การอุทธรณ์คดี จำเลยต้องมาขออุทธรณ์ด้วยตัวเอง หากอยู่ระหว่างการหลบหนีก็ให้พักคดีนั้นไปก่อนโดยไม่นับอายุความ แต่ กรธ.เห็นว่าหากสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการพักคดี เพราะการขยายเวลาออกไปอาจส่งผลต่อรูปคดีได้ อาทิ พยานหลักฐานสูญหาย แต่การพิจารณาคดีลับหลังมีความเป็นธรรมมากกว่า เนื่องจากมีการพิจารณามาตั้งแต่ชั้นขอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

นายมีชัย ยังให้ความเห็นถึงการผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสื่อฯ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หลังจากมีการตั้งข้อสังเกตว่ากฎหมายดังกล่าวเปิดทางให้รัฐเข้ามาครอบงำสื่อ ว่า เรื่องนี้รัฐธรรมนูญให้เสรีภาพสื่อเต็มที่ มีเจตนารมณ์ให้สื่อสามารถตรวจสอบกันเองหากสื่อเห็นต่างกับร่างกฎหมายดังกล่าวก็สามารถที่จะแย้งไปยัง สปท.ได้ ส่วนตัวมองว่าเปิดทางให้สื่อเข้ามาร่วมร่างกฎหมาย โดยอาจจะตั้งอนุกรรมการที่เป็นสื่อด้วยกันทั้งหมดมาพิจารณาร่วมกัน เพราะไม่มีใครเข้าใจดีเท่ากับสื่อด้วยกัน


นายมีชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้การร่างกฎหมายว่าด้วยแผนการปฏิรูปและกฎหมายว่ายุทธศาสตร์ชาติ ขณะนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว เตรียมส่งให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับวิธีการปฏิรูปและกำหนดยุทธศาสตร์ว่าใครรับผิดชอบเรื่องอะไร กรรมการยุทธศาสตร์จะมาจากไหนและรับฟังความเห็นจากใครบ้าง ยังไม่ใช่กฎหมายที่เป็นรายละเอียด แต่จะมีการกำหนดเป้าหมายใหม่ที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ว่าจะมีการปฏิรูปไปสู่อะไร มีขั้นตอนการทำงานอย่างบูรณาการ ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างทำ

ส่วนคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ( ป.ย.ป.) ที่รัฐบาลตั้งขึ้นนั้น นายมีชัย กล่าวว่า เพื่อวางแนวทางล่วงหน้าตามทิศทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดหลังจากกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ จะได้เห็นผลเป็นรูปธรรม ยืนยันว่าคณะกรรมการ ป.ย.ป. ไม่ใช่คณะกรรมการตามกฎหมายยุทธศาสตร์ที่กำลังร่าง อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้จะมีการตราขึ้นหลังร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เมื่อตราขึ้นแล้ว จะมีการออกเป็นกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย