ทำเนียบฯ 6 ก.พ.- กอ.รมน.สรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2559 และแถลงแผนงานประจำปี 2560 ขณะที่ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ กอ.รมน.ทำงานบูรณาการรอบด้าน ลดช่องว่าง ขจัดความซ้ำซ้อน และชัดเจนในข้อกฎหมาย
พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2559 และแถลงแผนงานประจำปี 2560 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (6 ก.พ.)
พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายการดำเนินการในระดับนโยบาย ให้ยึดถือตามการนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2558 – 2564 และสนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560 – 2564 ขณะเดียวกัน กอ.รมน.ต้องเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจ ตระหนักรู้ถึงเรื่องที่รัฐบาลสื่อให้ประชาชนเข้าใจ โดยใช้กลไกที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า ส่วนงานด้านมวลชนทั่วประเทศ เป็นสิ่งที่ กอ.รมน. สามารถดำเนินการได้ โดยผ่านโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการเอง และให้การสนับสนุนองค์กรภาครัฐอื่นๆ อาทิ สมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.), หมู่บ้านพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.), กองหนุนแห่งชาติ (กนช.), ลูกเสือชาวบ้าน (ลส.ชบ.), อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) หรือองค์กร, กลุ่มมวลชนอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีการจัดระบบให้สามารถบูรณาการให้เกิดประโยชน์ และขยายผลได้ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ, การสร้างความตระหนักรู้, จิตอาสาในวาระที่เหมาะสม และการสร้างเครือข่ายแจ้งข่าวสารต้องทำให้เป็นรูปธรรม
พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทุกระดับสนับสนุนในการดำเนินการ ปัญหาข้อขัดข้องที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินการ ต้องรายงานให้ทราบในข้อเท็จจริงโดยเร็ว โดยที่ กอ.รมน. จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการและ ศูนย์อำนวยการบริหารจัดหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การสนับสนุน โดยทั้งหมดต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“สำหรับการบรรเทาสาธารณภัย ให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า เช่น การจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ อุปกรณ์ด้านสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติงาน และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด ในส่วนของการฟื้นฟู เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ต้องมีความพร้อมในการสำรวจความเสียหายโดยทันที และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนโดยเร็ว และนำมาบรรจุไว้ในแผนระยะยาวต่อไป” พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าว
พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า ด้านปัญหาภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและในอนาคต มีความซับซ้อน มีผลกระทบในหลายมิติ ทั้งภายในชุมชน ภายในประเทศและระหว่างประเทศ กอ.รมน. จะต้องพร้อมที่จะทำหน้าที่ในการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหานั้นให้ได้ สามารถรองรับภารกิจทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องให้การสนับสนุนให้ลุล่วงตามนโยบายการสั่งการ ซึ่งหากจำกัดด้วยกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งใดๆ ต้องให้ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการดำเนินการภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด
พ.อ.พีรวัชฌ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้การทำงานของ กอ.รมน. จะต้องเป็นการทำงานอย่างบูรณาการรอบด้าน เพื่อลดช่องว่าง ขจัดความซ้ำซ้อน และเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันกับทุกภาคส่วน ให้การปฏิบัติงานไปสู่ผลสัมฤทธิ์ ตามวัตถุประสงค์อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน เจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.จะต้องมีความรอบรู้ในเรื่องของกฎหมาย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึง แผนงานต่างๆ ของรัฐบาล และ คสช. เพื่อให้การเตรียมการ การวางแผน และการปฏิบัติ มีความต่อเนื่อง มีการบูรณาการ และประสานสอดคล้องในการปฏิบัติงานร่วมกัน .- สำนักข่าวไทย
