คลังยืนยันไม่มีปัญหาเงินคงคลัง ย้ำฐานะมั่นคง

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – รัฐมนตรีคลัง ยันฐานะการเงินของไทยยังแข็งแกร่ง ชี้เงินคงคลังเหลือ 74,000 ล้านบาท เหตุจากการบริหารเงินสดคงเหลือ หวังประหยัดภาระดอกเบี้ย  ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าเงินคงคลังลดลง  และมีผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศว่า เงินคงคลังที่หมายถึงคือเงินสดคงคลังที่เหลืออยู่ ซึ่งในความเป็นจริงมีเพียง 50,000-100,000 ล้านบาทก็เพียงพอในการบริหารจัดการ เพราะหากมีเงินคงคลังมากเกินไป  รัฐบาลจะมีภาระดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น หากลดเงินคงคลังได้ 100,000 ล้านบาท จะลดภาระดอกเบี้ยได้ 2,000 ล้านบาท

รัฐมนตรีคลังยืนยันว่าเงินคงคลังยังอยู่ในสถานะที่ดีอยู่ ไม่ได้ถังแตก โดย ณ เดือน ธ.ค. 59 ซึ่งเป็นตัวเลขที่หักลบรายได้และรายจ่ายแล้วคงเหลือทั้งสิ้น 74,907 ล้านบาท


“ในอดีตที่ผ่านมา เคยมีการเก็บเงินคงคลังไว้สูงถึง 4 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมองว่าไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด โดยรายได้ของรัฐบาลมาจากสองส่วนหลักคือ รายได้จากการจัดเก็บภาษี และเงินกู้ รัฐบาลดำเนินนโยบายเรื่องของการกู้เงินตามความจำเป็นไม่กู้มาเก็บเอาไว้ซึ่งจะทำให้เสียดอกเบี้ย” นายอภิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คล่องในการบริหารจัดการเงินสดคงคลัง จึงได้สั่งการให้ศึกษาการแก้ไขกฎหมายเงินคงคลัง ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน.ให้สามารถกันเงินกู้ฉุกเฉินระยะสั้นวงเงิน 80,000 ล้านบาท ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินไว้ก่อนเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งทำให้สภาพคล่องในการบริหารเงินคงคลังมีประสิทธิภาพและประหยัดภาระดอกเบี้ยมากขึ้น

ส่วนกรณีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศนั้น ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเงินคงคลังที่ลดลง แต่เป็นการปรับขึ้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและ ลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล อัตรา 5 บาทต่อลิตร และผู้ใช้น้ำมันดีเซลส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย แต่ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินจัดเก็บเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ขึ้นเครื่องบินเป็นคนมีรายได้สูง จึงควรปรับให้เกิดความเป็นธรรม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม