ครูบึงกาฬ ร้อง ยธ.รื้อฟื้นคดี

ก.ยุติธรรม 6 ก.พ.-4 ครูบึงกาฬ เข้าร้อง ยธ.เรียกร้องความเป็นธรรมขอให้รื้อฟื้นคดี หลังเป็นพยานช่วย ผอ.โรงเรียน ให้พ้นคดียิงคนเสียชีวิตแต่ต้องมาติดคุกในคดีซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน


ภาพข่าวครูบึงกาฬร้องยธ (4)

 


 

 

 


นางบัวลอย คล่องดี อายุ 58 ปี ,นางอำคา ภูต้องใจ อายุ 56 ปี,นางละไม ปุณริบูรณ์ อายุ 55 ปี และนางขวัญภักดิ์ โพธิ์ดง อายุ 56 ปี อดีตครูระดับ ซี 8 โรงเรียนบึงของหลงวิทยา  อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุกในคดีให้การเท็จและปิดบังซ้อนเร้นวัตถุพยาน  กรณีที่นายชูศักดิ์ สุทธศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบึงโขงหลง ถูกแจ้งข้อหาเป็นคนลงมือฆ่าครูสอนดนตรี ขณะที่ครู อีก4 คนเป็นพยานให้การว่า มีมือปืนบุกมาจากด้านนอกโรงเรียนเข้ามายิงก่อนหลบหนีไป ทำให้ถูกตัดสินจำคุก 4 ปีแต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 3 วาระเหลือโทษติดคุก 1 ปี 10 เดือน 1 วัน พ้นโทษออกมา 24 ธันวาคม 2559 เข้าร้องต่อกระทรวงยุติธรรม ขอให้รื้อฟื้นคดี เนื่องจากไม่แด้รับความเป็นธรรมในชั้นสอบสวน และพวกตนไม่ได้ทำผิด

ภาพข่าวครูบึงกาฬร้องยธ (2)

นางบัวลอย กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุช่วงเดือนมี.ค.ปี 2552 เวลาประมาณ 20.45 น. ตนทั้ง4 คน และนายชูศักดิ์ ผอ.โรงเรียน พร้อมเพื่อนครูของนายชูศักดิ์ มาร่วมนั่งรับประทานอาหารและมีการนำสุรามาดื่มในเรือนพยาบาลภายในโรงเรียน  ระหว่างนั้นมีคนร้ายลอบใช้อาวุธปืนมายิงเพื่อนผู้อำนวยการ จำนวน 3 นัดและแทงซ้ำ โดยผู้ตายและนายชูศักด์ สวมเสื้อสีฟ้าเหมือนกัน

 

นางบัวลอย กล่าวต่อว่า  พวกตนเห็นว่างานเลี้ยงเลิกแล้ว อีกทั้งกลัวจะมีความผิดทางวินัยเรื่องการดื่มสุราในสถานที่ราชการ จึงนำขวดสุราไปทิ้ง จากนั้นทั้ง 4 คน ไปให้การเป็นพยานให้กับนายชูศักดิ์ในชั้นศาลว่าไม่ได้ยิงคนตาย จนศาลยกฟ้อง ต่อมาช่วงปี 2556 ตำรวจได้ฟ้องศาลเอาผิดกับพวกตนทั้ง 4 คน ว่าให้การเท็จและปิดบังซ้อนเร้นวัตถุพยาน ศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 4 ปี โดยเมื่อไปยื่นศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์กลับไม่รับฟ้องและ ถูกจำคุกเมื่อ 24 ก.พ.2558 และถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อ 24 ธ.ค.2559

 

ทั้งนี้ เมื่อออกมา  จึงเข้ามาร้องที่กระทรวงยุติธรรมเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่พวกตนกลับถูกดำเนินคดีและติดคุกเสียเอง ระหว่างติดคุก ทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ  ได้เข้ามาช่วยเหลือติดต่อให้การช่วยเหลือตลอดแต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากทางตำรวจ  หลังจากนี้ในชั้นรื้อฟื้นคดี อยากขอพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์และถ้าเป็นไปได้อยากจะให้กระทรวงศึกษาธิการรับพวกตนทั้งหมดกลับเข้ารับราชการเพราะทั้งหมดยังมีอายุราชการเหลืออีกคนละ 2-5 ปี แม้ว่าในช่วงรับโทษ ทางโรงเรียนจะเชิญให้ออกจากราชการ และได้รับบำเหน็จบำนาญก็ตาม

 

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (ศนธ.ยธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาหลักฐานลงพื้นที่มาสักระยะแล้ว ขณะนี้มีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว และให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย