นักวิชาการแนะเอกชนไทยหาลู่ทางขยายการค้าแทนตลาดสหรัฐ

กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – นักวิชาการทีดีอาร์ไอแนะเอกชนและรัฐเดินหน้าเร่งเจรจาภายใต้กรอบอาเซียนบวก 6 หลังมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐจะประกาศใช้ ย้ำท่าที 11 ประเทศเดินหน้า TPP แม้จะไม่มีสหรัฐ ไทยควรเตรียมตัวรับมือ


นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิช ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ 2560 การค้าของอาเซียนและการลงทุนภาย ใต้นโยบายของทรัมป์ “อเมริกามาก่อน”  จัดโดยสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นและทีดีอาร์ไอ โดยคงต้องติดตามว่านโยบายของผู้นำสหรัฐที่จะประกาศออกมาหลังจากนี้เน้นด้านกีดกันทางการค้าเพื่อเศรษฐกิจในประเทศและลดขาดดุลการค้านั้นจะกระทบตลาดการค้าทั่วโลกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประเทศที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากสุด คือ จีน เวียดนาม และมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม  แม้ว่าไทยจะไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่ทางอ้อมไทยส่งออกไปจีนจะได้รับผลกระทบไปด้วย หากมองในแง่ดี แม้บางรายการสินค้าไทยจะได้รับผลกระทบที่สหรัฐจะใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับกลุ่มประเทศที่ทุ่มตลาดสหรัฐมาก แต่ก็เป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกสินค้าไปตลาดสหรัฐได้เอง แม้ตอนนี้ ไทยจะได้ดุลการค้ากับสหรัฐแต่ละปี 12,000 ล้านดอลาร์สหรัฐ ซึ่งยังไม่ถึงเกณฑ์และเงื่อนไขการตอบโต้ทางการค้าที่กำหนดดุลการค้าไว้อยู่ที่ 20,000 ล้านดอลาร์สหรัฐ จึงเป็นโอกาสที่ไทยยังสามารถขยายการส่งออกโดยตรงกับตลาดสหรัฐได้


นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามว่าสหรัฐจะใช้มาตรการด้านภาษีพรมแดน หรือมาตรการกำหนดมาตรฐานสินค้าและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านสังคมมาเป็นแนวทางกีดกันทางการค้าอีกหรือไม่  ภายในปีนี้และปีหน้า ดังนั้น ภาคเอกชนและรัฐบาลจะต้องเร่งปรับตัว โดยเดินหน้าเจรจาภายใต้กรอบอาเซียนบวก 6 ให้เกิดเป็นผลในรูปธรรมทางปฎิบัติ และทำการค้าภายในกลุ่มอาเซียนให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงเร่งหาตลาดหลักที่เป็นตลาดใหญ่พอที่จะขยายการค้า และเดินหน้าเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือการค้าเอฟทีเอหรือการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมกันต่อไป ขณะเดียวกันเอกชนไทยจะต้องปรับตัวทั้งผลิตสินค้าลดต้นทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน

ทั้งนี้ ยังมองว่าแม้สหรัฐจะประกาศมาตรการอะไรออกมาโอกาสที่นักลงทุนจากจีนจะเข้ามาลงทุนในกลุ่มอาเซียนและในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และไทยยังจะต้องเฝ้าติดตาม แม้ว่ากรอบความร่วมมือกรณีสหรัฐถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ TPP จาก 12 ประเทศ เหลือ 11 ประเทศขณะนี้ยังประกาศเดินหน้าที่จะทำตามกรอบดังกล่าวไปก่อน เมื่อผ่านพ้นการบริหารงานของผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันไปแล้วและมีคนใหม่เข้ามาโอกาสที่กรอบดังกล่าวอาจจะกลับมาใหม่ ดังนั้น ไทยต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ในระยะยาวต่อไป

นายนริศ ชัยสูตร ประธานบริหาร หลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตการ ศึกษาเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า มาตรการที่สหรัฐประกาศออกมาจะเน้นปกป้องเศรษฐกิจในประเทศ ผลดี คือ ปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตขึ้น แต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกไม่น้อยหลายด้าน คาดว่าไทยมีทั้งโอกาสและได้รับผลกระทบจากแนวนโยบายของผู้นำสหรัฐได้ ดังนั้น จะต้องสร้างความเข้มแข็งภายใต้กรอบของอาเซียน เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐที่คาดว่าจะใช้มาตรการปกป้องทางการค้ากับหลายประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

แอ่วเหนือคนละครึ่ง

เริ่มวันนี้ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ช่วย 400 บาท 10,000 สิทธิ

ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” เริ่มวันนี้ มอบส่วนลด 50% ไม่เกิน 400 บาท รวม 10,000 สิทธิ แบบ First Come First Served หวังสร้างเม็ดเงินได้ไม่น้อยกว่า 44 ล้านบาท

ตำรวจอุ้มรีด

“พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์” ลั่นฟันวินัย-อาญา ตร.ไซเบอร์ ร่วมก๊วนอุ้มรีดชาวจีน

ผู้การตำรวจไซเบอร์ 1 บช.สอท. ลั่นฟันวินัย-อาญา ตำรวจไซเบอร์ 3 นาย ร่วมก๊วนตำรวจอุ้มรีดชาวจีน 300 ล้านบาท พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใน 30 วัน

“มาริษ” เสียใจคนไทยตาย 4 สู้รบอิสราเอล-เลบานอน

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เศร้าใจ คนไทยเสียชีวิต 4 ราย บาด​เจ็บ 1 คน จากเหตุยิงจรวดใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน​ กำชับทูตกรุงเทลอาวีฟช่วยเหลือ