นครพนม 9 ก.พ.-ฝ่ายผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างนำพยานเข้านำสืบต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยพยานผู้ร้องยืนยันว่าเห็นคนก่อเหตุเป็นผู้ชาย แต่ก็ถูกซักค้านว่าให้การหลายครั้งไม่ตรงกัน ขณะที่พยานของอัยการผู้ร้องค้าน ขึ้นเบิกความให้เห็นว่า มีขบวนการว่าจ้างให้คนมารับผิดแทนครูจอมทรัพย์
ศาลจังหวัดนครพนม ออกนั่งบัลลังก์สืบพยานกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตช้าราชการครูในจังหวัดสกลนคร ขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ โดยภาคเช้าวันที่ 2 ของการสืบพยานมีการสืบพยานต่อเนื่องนานเกือบ 5 ชั่วโมง จนถึงเวลา 14.00 น. โดยประจักษ์พยาน 2 ปาก คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา เบิกความเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องยืนยันว่า เห็นคนก่อเหตุเป็นผู้ชาย นางทัศนีย์ จำหมายเลขทะเบียนได้ชัดเจนเฉพาะตัวอักษร บ และเลข 56 ส่วน อักษรตัวหลัง และหมวดจังหวัดจำได้ โดยเป็นรถกระบะมีหลังคาแครีบอย
ส่วนนางทองเรศ ไม่ได้สังเกตป้ายทะเบียนแต่ทั้งคู่ถูกอัยการซักค้านว่า ให้การหลายครั้งไม่ตรงกัน ทั้งการระบุทะเบียนรถระยะห่างระหว่างพยานกับจุดเกิดเหตุ การมองเห็นผู้ก่อเหตุ ตลอดจนการปรากฎตัวของนางทองเรศว่าเป็นคนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนางทัศนีย์ในภายหลัง โดยไม่เคยระบุในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งพยานผู้ร้องชี้แจงว่า ตำรวจไม่ถามข้อมูลบางส่วนที่ไม่ตรงกัน เพราะจำไม่ได้
วันนีครูจอมทรัพย์มาร่วมฟังการพิจรณา พร้อมระบุขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือมาโดบตลอด ยังคงเชื่อมั่นในกระวการยุติธรรม ขณะที่การสืบพยานภาคบ่ายเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น. นายทักษิณ ไข่สีดา เบิกความเป็นพยานผู้ร้องปากสุดท้ายยืนยันเหตุการณ์สามีครูจอมทรัพย์ขับรถครูดกับรั้วลวดหนามในปี 2546 หรือก่อนเกิดเหตุ 2 ปี ซึ่งเป็นที่มาของร่องรอยบริเวณข้างซ้ายของตัวรถ จากนั้นเป็นการสืบพยานฝั่งอัยการผัร้องค้านปากแรกคือ นายเสริฐ รูปสะอาด .-สำนักข่าวไทย