หญิงสาวร้องยุติธรรมภูเก็ตช่วยเหลือคดี เป็นแพะข้อหาชิงทรัพย์ที่ตรัง

ภูเก็ต 10 ก.พ. – หญิงสาวอายุ 32 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กรณีถูกตำรวจภูธรหาดสำราญ จ.ตรัง จับกุมข้อหาชิงทรัพย์ คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 10 ปี แต่เธอยืนยันวันเกิดเหตุไม่ได้ไปจังหวัดตรัง และภาพถ่ายผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดก็เป็นคนละคน รวมทั้งหลักฐานสำคัญคือ เธอมีรอยสักที่ข้อมือ แต่ภาพผู้ต้องหาที่ตำรวจได้จากกล้องวงจรปิดไม่มีรอยสัก


น.ส.ปวิตรา กองกำพล อายุ 32 ปี หรือพลอย นำเอกสารและหลักฐานเข้ายื่นขอความเป็นธรรมกับยุติธรรม จ.ภูเก็ต เพื่อให้ช่วยต่อสู้คดีหลังถูกตำรวจภูธรหาดสำราญ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ข้อหาชิงทรัพย์ สร้อยคอ และพระเครื่อง มูลค่ากว่า 700,000 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินพิพากษาจำคุก 10 ปี เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา

วันนี้ น.ส.ปวิตรา สำหลักฐานสำคัญมายื่นขอความเป็นธรรม ทั้งพยานบุคคลที่ยืนยันได้ว่าวันเกิดเหตุเธอทำงานอยู่ภูเก็ต ไม่ได้เดินทางไป จ.ตรัง การทำธุระกรรมทางการเงินกับธนาคารที่ภูเก็ต และภาพถ่ายของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่เป็นหญิงสาวลักษณะผอมสูง และไม่มีรอยสักบริเวณข้อมือ แต่เธอมีรูปร่างแตกต่างจากหญิงสาวที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สำคัญเธอมีรอยสักที่ข้อมือ ยืนยันหญิงสาวผู้ต้องหาที่ปรากฏในภาพไม่ใช่ตนเอง


น.ส.ปวิตรา ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า วันขึ้นศาลไม่เคยพบผู้เสียหาย และตำรวจก็ให้ผู้เสียหาชี้ตัวผ่านทางวิดีโอคอล ขณะนี้ตนเดือดร้อนมาก เพราะต้องดูแลลูกที่ยังเล็กและไม่มีเงินว่าจ้างทนายความเพื่อต่อสู้คดี จึงอยากขอทางยุติธรรมจังหวัดช่วยเหลือ รวมทั้งช่วยตรวจสอบวัตถุพยานอื่นอีกครั้ง ทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่อ้างว่าตนเองใช้ติดต่อกับผู้เสียหาย รวมถึงลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยร้องขอให้ตรวจสอบวัตถุพยาน แต่ตำรวจไม่มีการตรวจสอบ ขณะที่ยุติธรรมจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นพบพิรุษหลายอย่าง จึงเตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ตำรวจสถานีภูธรหาดสำราญ จ.ตรัง ขออำนาจศาลออกหมายจับ น.ส.พลอย ซึ่งชื่อเล่นตรงกับ น.ส.ปวิตรา หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จังหวัดตรัง ชื่อ พลอย มอมยา ขณะที่ดื่มกินกันอยู่ภายในรีสอร์ท ก่อนจะชิงทรัพย์เป็นพระเครื่อง และสร้อยคอมูลค่ากว่า 700,000 บาท จนกระทั่งตำรวจมาจับกุมตัว น.ส.พลอย ที่ภูเก็ตเมื่อปี 2559. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ