โรงแรมเซ็นทราฯ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 17 พ.ย.-ประวิชไม่กังวลเรื่องคุณสมบัติตามรธน.ใหม่ ให้เป็นดุลยพินิจของกรธ. ด้านสมชัย ติงกรธ.อย่านำเรื่องคุณสมบัติเป็นเงื่อนไขยึดพื้นที่องค์กรอิสระ ชี้ กกต.ต้องกล้าพูดความจริงกม.ดีหรือไม่ดี อย่ายึดติดตำแหน่ง
นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคุณสมบัติของกกต.ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่อาจทำให้ กกต.ชุดปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่ง ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของกกต.หรือกรรมการองค์กรอิสระที่จะให้ความเห็น เพราะผู้ที่มีหน้าที่ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสุดท้ายขึ้นอยู่กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นผู้พิจารณา
“ผมไม่ได้กังวลใจ ที่ผ่านมากกต.ได้สอนเรื่องพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ซึ่งหมายถึงต้องเคารพกฎหมายและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ดังนั้น จึงต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง และไม่ว่ากฎหมายจะออกมาอย่างไร ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ขอให้กรธ.ใช้ดุลยพินิจอย่างอิสระในการวินิฉัย ก่อนส่งร่างกฎหมายลูกให้สนช.พิจารณา” นายประวิช กล่าว
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวุฒิสมาชิก(ส.ว.) ว่า การออกกฎหมายทั้งสองฉบับมีความสำคัญ แต่จากการร่วมประชุมเมื่อวานนี้(16 พ.ย.) ฟทำให้เห็นว่า กรธ.จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพียงพิธีกรรม ขาดความจริงใจที่จะให้ประชาชนรับรู้เนื้อหาสาระอย่างแท้จริง ไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ส่วนร่างกฎหมายที่นำมาเสวนาเป็นของเดิมที่กกต.เคยเสนอไปแล้ว ทั้งที่ร่างใหม่ที่ กรธ.ปรับแก้มีความเปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาเดิม
“กรธ.ควรจัดเวทีแสดงความคิดเห็นแบบนี้อีกครั้งหลังได้ข้อสรุปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการปลูกถ่ายพิธีกรรมทางการเมือง ไม่อยากให้กรธ.ทำตัวเป็นนักศึกษาที่ทำวิทยานิพนธ์ แต่ไม่ยอมพบอาจารย์ที่ปรึกษา และเมื่อใกล้กำหนดส่งวิทยานิพนธ์ก็จะบีบให้อาจารย์ที่ปรึกษาต้องอนุมัติจบ ไม่เช่นนั้นจะถึงว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับนักศึกษา กรธ.ต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็น” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวถึงการกำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระตามร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่า หากจะให้เกิดความเป็นธรรมต้องบังคับใช้กับทุกองค์กรอิสระ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบคอบ อย่าทำให้สังคมมองว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกำลังต้องการเปลี่ยนแปลงองค์กรอิสระ เปิดพื้นที่ให้คนของตัวเองมาทำหน้าที่ เป็นการยึดพื้นที่ทางการเมืองขององค์กรอิสระ โดยอ้างเรื่องคุณสมบัติ
“ผมไม่ได้พูดเพื่อประโยชน์ของตัวเอง มั่นใจว่ามีคุณสมบัติเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนด แต่ห่วงภาพรวมว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับองค์กรอิสระอื่น ๆ” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าหากรัฐธรรมนูญใหม่ส่งผลให้กกต.ต้องขาดคุณสมบัติจะกระทบกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขั้นหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า มีกกต. 2 คนที่เข้าข่าย แต่ก็เป็นเรื่องของสำนักงานกกต.ที่ต้องสานต่อ คงให้ความเห็นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสำนักงาน
“เมื่อกฎหมายลูกแล้วเสร็จส่งให้สนช.พิจารณา อยากให้กกต.มองปัญหาที่เกิดขึ้นจริงบนพื้นฐานประสบการณ์การทำงานตลอด 18 ปี และให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า สิ่งที่กรธ. ออกแบบมาสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ โดยไม่ทำตัวเป็นองค์กรที่แล้วคนอื่นจะกำหนด แต่ควรสะท้อนข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้น ถ้าแย่ก็ต้องกล้าพูด อย่ายึดติดกับตำแหน่งของตัวเอง” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย