กทม. 14 ก.พ.-จากสถิติวัยรุ่นหญิงไทยอายุไม่ถึง 20 ปี พบว่าทุก 1,000 คน จะมีผู้ที่ตั้งครรภ์ 44 คน ปัญหาที่ตามมาคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย การทอดทิ้งทารก และประชากรด้อยคุณภาพจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทางออกสำคัญเรื่องนี้คือการเปิดพื้นที่เรียนรู้เพศศึกษาแก่พวกเขา
ถุงยางอนามัยสำหรับสตรีถูกนำมาสาธิตให้ผู้สนใจได้รู้จัก เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เปิดพื้นที่เรียนรู้เรื่องเพศให้กับวัยรุ่น ที่ภาครัฐรวมตัวกันจัดขึ้น สอดคล้องกับวัยรุ่นหญิงคนนี้ที่แม้จะรู้จักยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แต่ยังไม่รู้จักถุงยางอนามัยสำหรับสตรี
ผลวิเคราะห์หาทางออกแก้ปัญหาวัยรุ่นท้องไม่พร้อม พบว่าปัจจัยสำคัญคือ ต้องมีการเปิดพื้นที่เรียนรู้ด้านเพศศึกษา และการคุมกำเนิดให้กับวัยรุ่น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าแม้ตัวเลขการเกิดของทารกในระบบจะอยู่ที่ราว 700,000 คนต่อปี ลดลงจาก 1 ล้านคนต่อปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวเลขเด็กที่เกิดจากวัยรุ่นที่แม่ท้องไม่พร้อมจะลดจำนวนตามลงไปด้วย เพราะอัตราการมีเพศสัมพันธ์ของเด็กในวัย 15-19 ปี กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
แม้ถุงยางอนามัยจะเป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างคุ้นเคยในวัยรุ่น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในการหาซื้อ การติดตั้งตู้ถุงยางอนามัยหยอดเหรียญตามสถานศึกษาก็ยังถูกมองว่าเป็นดาบสองคม ขณะที่เคยมีการทดลองพบว่าตู้ถุงยางอนามัยที่ติดตั้งใกล้สถานศึกษาจำหน่ายดีที่สุด
วัยรุ่นชายมองว่าการหาความรู้เรื่องเพศในเน็ต เช่น การกินยาคุมกำเนิด ไม่มีความน่าเชื่อถือ สิ่งที่วัยรุ่นเชื่อใจมากที่สุดกลับกลายเป็นครูที่โรงเรียนที่พร้อมจะพูดคุยเปิดอกในเรื่องเพศ และไม่แสดงความรู้สึกรังเกียจเหยียดหยามเมื่อเด็กเอ่ยถาม
การปรับทัศนคติของคนในสังคม และให้วัยรุ่นได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตด้านเพศสุขภาพที่ดี พัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เป็นเป้าหมายที่ 5 พันธมิตรภาครัฐตั้งไว้ร่วมกัน คือใน 10 ปีข้างหน้าจะลดการท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นให้ได้ครึ่งหนึ่ง คือจากที่พบวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี ตั้งครรภ์ 44 คนใน 1,000 คน ให้เหลือเพียง 20 คนใน 1,000 คนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย