ดีเอสไอ16ก.พ.- ดีเอสไอยืนยัน ใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น ปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ปราศจากความรุนแรง แต่จะปฏิบัติการต่อเนื่องทั้งกลางวันกลางคืน ขณะที่ ‘องอาจ ธรรมนิทา’เข้ามอบตัวที่ สภ.คลองหลวง แล้ว เมื่อคืนนี้ นำหลักทรัพย์ประกันตัวออกไป ห้ามออกนอกประเทศ-ยุยงปลุกปลั่น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวถึงการปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกายวันนี้ ว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้พระธัมมชโย เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและนำพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาถึง 3 ครั้ง แต่ก็บ่ายเบี่ยง อ้างเหตุผลจำเป็นต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมถึงมีคณะศิษยานุศิษย์เข้าขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกายถึง 2 ครั้ง จึงนำมาสู่การออกประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุมพื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบเพื่อตรวจสอบคัดกรองผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติการเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตามผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำให้ใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นและไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นก็จะไม่มีการพกพาอาวุธ โดยเจ้าหน้าที่จากทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานปกครอง และคณะสงฆ์ จะเข้าตรวจค้นจากอาคารที่คาดว่าจะเป็นที่อยู่ของพระธัมมชโยก่อน หากศิษยานุศิษย์เชื่อมั่นว่าพระธัมมชโยบริสุทธิ์ก็อยากนิมนต์ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน พร้อมกับย้ำว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของพระธัมมชโย รวมถึงศาสนาพุทธ เป็นเพียงการปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าร่วมปฏิบัติการในวันนี้เป็นตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 และภาค 7 เพื่อคลองผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่โดยจะเน้นการพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อทำการตรวจค้น โดยจะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นโดยเริ่มมาตรการจากเบาไปหาหนัก หากใคร แสดงตัวขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย เมื่อเข้าตรวจค้นก็จะพิสูจน์ว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดหรือไม่ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ได้จำกัดกรอบเวลา เนื่องจากศาลให้อำนาจในการตรวจค้น ทั้งกลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันหลายวัน จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจให้นำตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจำนวน 300 กว่าคดี ทั้งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เลย ตาก พังงา
ส่วนนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.คลองหลวงเมื่อคืนนี้ และนำหลักทรัพย์ประกันตัวออกไปแล้ว โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ และห้ามยุยงปลุกปลั่น.-สำนักข่าวไทย