กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 23 ก.พ.- ปภ.รับมอบเงินบริจาคและสิ่งของเพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้านอธิบดี ปภ.เผยการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายคืบหน้าร้อยละ73
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับมอบเงินบริจาคและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จากนิคมอุตสาหกรรมไทย (กนอ.) มูลนิธินิคมอุตสาหกรรมไทยและพันธมิตร ภายใต้โครงการ กนอ.ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบ เพื่อนำไปก่อสร้างบ้านให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามแปลนของกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 5 หลัง พร้อมสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำไปแจกจ่ายประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย ตามพระราชกระแสรับสั่งของในหลวงรัชกาลที่ 10 และนโยบายของรัฐบาล ในการเร่งแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 12 จังหวัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 11,818 หลัง แยกเป็น เสียหายทั้งหลัง 314 หลัง เสียหายมาก 788 หลัง เสียหายน้อย 10,716 หลัง โดยรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลด้านที่อยู่อาศัย ได้มีนโยบายเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานขอรับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อก่อสร้างบ้านเรือนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ภายใต้โครงการ “กนอ.ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้”ด้วยการบริจาคเงินจำนวน 1,150,000 บาท เพื่อนำไปก่อสร้างบ้านให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามแบบแปลนของกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 5 หลัง หลังละ 230,000 บาท
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า การซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบมีความคืบหน้าไปร้อยละ 73 คาดว่าในวันที่ 5 มีนาคมจะสามารถซ่อมแซมและส่งคืนบ้านเรือนให้ประชาชนได้ ยกเว้นบ้างพื้นที่ที่ประสบภัยหนัก ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายได้เร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือและโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร ได้อย่างช้าไม่เกิน 30 เมษายนนี้ พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับเส้นทางคมนาคมมากกว่า 4,000 จุด จึงได้เร่งซ่อมแซมเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมโยธาธิการและผังเมือง ศึกษาพื้นที่เพื่อจัดทำเส้นทางไหลของน้ำ รวมถึงแหล่งเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้ง .-สำนักข่าวไทย