ผบ.ทบ.ห่วงมือที่ 3 ป่วนวัดพระธรรมกาย

chalermchai - 24-2-2560 12-58-45ลพบุรี 24ก.พ.- ผบ.ทบ.ห่วงมือที่ 3 ป่วนวัดพระธรรมกาย สั่งทหารคุมเข้มพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมหนุน กกล.รส.-ปจว. หาก  DSI  ร้องขอ


พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก  กล่าวถึง การตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่ถูกขัดขวางจากพระลูกวัดและศิษยานุศิษย์ ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)   เป็นผู้รับผิดชอบหลัก   ในแต่ละวันมีการประชุมสรุปการทำงานร่วมกัน หากมีการร้องขอกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษก็พร้อมให้การสนับสนุน

ส่วนที่มีภาพการเผชิญหน้ากันระหว่างพระ ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายกับทหาร เมื่อวานนี้ (23ก.พ.) ที่ผ่านมานั้น พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า  เกิดขึ้นนอกบริเวณวัด  ทหารปฏิบัติตามหน้าที่ ยอมรับว่ากังวลอยู่เหมือนกัน เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า อาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อกวนสร้างสถานการณ์  ดังนั้น ต้องดูแลพื้นที่รับผิดชอบให้เข้มงวดมากขึ้น และเมื่อมีการต่อต้าน ก็จะใช้หลักยอมเสียเวลาดีกว่ามีการปะทะกัน  ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการปรับแผนในแต่ละวัน ส่วนที่วัดจะฟ้ององค์การสหประชาชาติ ก็เป็นเรื่องของทางวัด


“ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น  อดทน เมื่อวาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวแล้วว่า ต้องอดทน และพยายามดำรงความมุ่งหมายในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไร หน่วยงานแต่ละที่ก็มีการสรุปผลการทำงานในแต่ละวัน เพื่อปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ผมมีหน้าที่ให้การสนับสนุนและกำกับดูแลภาพรวม โดยพล.อ.ประวิตร จะดูแลอย่างใกล้ชิด” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

ส่วนที่มีการนำวัสดุมากีดขวางประตูทางเข้าวัดพระธรรมกาย จนอาจส่งผลต่อทำให้เข้าตรวจค้นยากลำบากยิ่งขึ้น พล.อ.ฉลิมชัย กล่าวว่า     ณ เวลานี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่ยังดำรงความมุ่งหมายเดิม ต้องให้เจ้าหน้าที่วางแผนการทำงาน ในส่วนของกองกำลังรักษาความสงบเรียบ (กกล.รส.) หรือ ปจว.ก็พร้อมสนับสนุน หากมีการร้องขอจากดีเอสไอ

“ระหว่างความเชื่อกับหลักข้อเท็จจริง หรือหลักของกฎหมาย จะเอาตรงไหนเป็นหลัก สังคมจะยืนอยู่ได้ด้วยความเชื่อหรือกฎหมาย ณ วันนี้ เวลานี้ต้องพยายามทำความเข้าใจ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่ประสงค์สร้างความวุ่นวาย ยอมรับว่ามีรายงานข่าวเรื่องมือที่ 3 จะเข้ามาผสมโรง ผมก็กังวล จึงพยายามเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลพื้นที่โดยรอบ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว


อย่างไรก็ตาม พล.อ.เฉลิมชัย ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะยังอยู่ในวัดหรือไม่ และส่วนตัวไม่ได้ให้ความสำคัญจุดนี้ แต่เน้นการบังคับใช้กฎหมาย เจอไม่เจอค่อยว่ากัน ส่วนในพื้นที่วัดพระธรรมกายจะมีสิ่งใดนอกเหนือกว่าพระหรือไม่ ต้องมีการพิจารณาว่า มีอะไรซ่อนอยู่ จึงไม่ยอมให้ตรวจค้น

ส่วนกรณีมีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปตักบาตรพระวัดพระธรรมกายและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นำมวลชนเข้าร่วมการชุมนุม  พล.อ.ฉลิมชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของส่วนตัวบุคคล อาจมีความผูกพันกันมาก่อน อย่าไปเหมารวมว่ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้        .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง