ทำเนียบรัฐบาล 24 ก.พ.-ตำรวจสันติบาลฝึกซ้อมสถานการณ์เผชิญเหตุผู้ชุมนุม ไม่ใช้ความรุนแรง เน้นเจรจา สร้างความเข้าใจ เตรียมติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธจุดเข้า-ออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาลกว่า50 นาย ฝึกซ้อมรับสถานการณ์การเผชิญเหตุกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจำลองสถานการณ์ เมื่อมีผู้ชุมนุมเข้ามาเคลื่อนไหวร้องเรียน รวมถึงพกพาอาวุธเข้ามาประชิดตัว โดยเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือทั้งการต่อสู้ ป้องกันโดยปราศจากอาวุธ และวิธีต่าง ๆ ในการควบคุมผู้ชุมนุมที่เข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล3 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า การฝึกความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำตามจุดต่าง ๆ ในทำเนียบรัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่สำคัญของผู้นำประเทศ จึงต้องมีความพร้อมเสมอ อีกทั้ง กรณีการชุมนุมคัดค้านการโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถือเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ แม้ว่าจะมีมาตรา 44 ห้ามการวมตัวชุมนุม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง เจ้าหน้าที่ต้องรับมือกับมวลชน โดยไม่ให้เกิดการสูญเสียหรือใช้ความรุนแรง
พ.ต.อ.เกียรติ กล่าวว่า การฝึกครั้งนี้ต้องตรียมพร้อมรับมือบุคคล 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มมวลชนที่ข้ามมาจากศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาลที่ สำนักงาน กพ. มุ่งหน้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล คนวิกลจริตที่ปีนป่ายและบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ กลุ่มคนที่ลักลอบแทรกซึมปะปนเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ ตำรวจสันติบาลยังมีมาตรการเฝ้าระวังกลุ่มมวลชน ที่อาจเคลื่อนจากวัดพระธรรมกายมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย
“ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเน้นย้ำว่าการรับมือกับผู้ชุมนุม ต้องไม่ใช้ความรุนแรง เน้นการเจรจา สร้างความเข้าใจเป็นหลัก และหากมีการทำร้ายเจ้าาก็ต้องควบคุมตัว การฝึกความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจะฝึกอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต และนอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมของกำลังพลแล้ว จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามจุดเข้า-ออก โดยอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธวัตถุต้องสงสัย” พ.ต.อ.เกียรติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย