นนทบุรี 27 ก.พ.- ยอดส่งออกไทยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.8 หลังปริมาณการค้าโลกเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ผลักดันให้การส่งออกไทยกลับเข้าสู่แดนบวก
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกของประเทศในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีมูลค่า 17,099 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขยายตัวถึงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนว่าการส่งออกของไทย เริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น ตามเศรษฐกิจ และการค้าของโลกที่มีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู้ค่าสำคัญที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้การส่งออกไปยังตลาดหลัก เพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยการส่งออกไปยังสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.5 ญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ 6.4 และสหภาพยุโรป ขยายตัวร้อยละ 10.4 ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 53.4 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล สูงขึ้นถึงร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา
รวมทั้งการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 9.7 โดยเฉพาะยางพารา ส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28.2 รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม อย่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.1 และทองคำ ขยายตัวถึงร้อยละ 157.6
ขณะที่ การนำเข้า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีมูลค่า 16,273 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.17 ส่งผลให้ดุลการค้า ในเดือนมกราคม 2560 ไทยเกินดุล 826 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้ จะขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 18,841 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกจะขยายตัวได้ร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่า 226,093 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามเป้าหมายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การค้าโลกที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติในรอบ 5 ปี ประกอบกับเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเริ่มกลับมาเป็นบวกอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 หรือมีมูลค่า เฉลี่ยเดือนละ 18,572 ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นมูลค่า 222,869 ล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย