กทม.6 มี.ค.- ตำรวจกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณห้าแยกลาดพร้าวเพิ่มเติม เพื่อรองรับการปิดช่องจราจรเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว
พลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำกับดูแลงานจราจร เปิดเผยถึงการปิดการจราจรห้าแยกลาดพร้าววันแรกของวันทำการ เพื่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากถนนพหลฯโยธินช่วงหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวถึงสวนสมเด็จย่า ฝั่งละ 1 ช่องทางนาน 1 ปีว่า มีรถสะสมในช่วงแรกบนถนนลาดพร้าวขาเข้า มีท้ายแถวสะสมไปจนถึงแยกโชคชัย แต่หลังจากจัดตำรวจจราจรลงไปช่วยเร่งระบายรถที่ปากทางถนนลาดพร้าว ทำให้ท้ายแถวสะสมลดลง ส่วนถนนพหลโยธินบริเวณหน้าสวนจตุจักรที่จะมุ่งหน้ามาห้าแยกลาดพร้าว ก็ได้รับผลกระทบเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนยังไม่คุ้นชินกับเส้นทางและยังไม่กล้าเข้าไปใช้ในช่องทางพิเศษที่เจ้าหน้าที่จัดให้ 2 เส้นทาง ทั้งนี้ได้ประสานผู้รับเหมาของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม.ตีเส้นจราจรให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และให้ทำเส้นลูกศรนำทางให้รถจากพหลโยธินเข้ามาใช้ในช่องทางพิเศษได้ รวมถึงติดตั้งป้ายชี้ช่องทางให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมกำชับตำรวจจราจร ประจำอยู่ 5 แยกลาดพร้าว ปรับสัญญาณไฟจราจรให้เข้ากับปริมาณรถที่ผ่านในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้พบว่ามีรถเข้ามาใช้ถนนวิภาวดีรังสิตช่วงห้าแยกลาดพร้าวลดลง คาดว่ามาจากเป็นช่วงปิดภาคเรียนจึงทำให้ปริมาณลดลดลงบวกกับประชาชนส่วนใหญ่ทราบว่าจะมีการปิดการจราจรในจุดดังกล่าวจึงหลีกเลี่ยงไปใช้ในเส้นทางอื่นแทน
สำหรับช่วงเย็นวันนี้(6 มี.ค.) ได้เตรียมแผนเพื่อรับรถที่จะผ่านห้าแยกลาดพร้าว โดยมีแผนที่จะเปิดช่องทางพิเศษในถนนกำแพงเพชร 3 ให้มาออกบริเวณปากซอยกระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีฯ เพื่อช่วยระบายรถ ที่จะผ่านแยกกำแพงเพชร สวนจตุจักร และ 5 แยกลาดพร้าวให้ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดสัญญาณไฟในช่วงเย็นวันนี้จะพยายาม ปรับสัญญาณไฟจราจรใน 1 รอบไม่เกิน 120 วินาทีเพื่อความคล่องตัวของรถที่จะผ่านเส้นทางแต่หากมีปริมาณรถมาก เกินกว่าที่คาดไว้ก็จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์อีกครั้ง โดยในช่วงเย็นวันนี้ยังมีความเป็นห่วงในถนนพหลโยธินขาออกช่วงจาก ห้าแยกลาดพร้าวไปแยกรัชโยธินและแยกเกษตร เนื่องจากในช่วงเย็นมีรถเข้ามาใช้เส้นทางในจุดต่างๆค่อนข้างมาก และมีจุดก่อสร้างทางรถไฟฟ้าทำให้ช่องทางการจราจรลดลงเหลือเพียง 2 ช่องทาง จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เข้าไปดูแลการจราจรในพื้นที่ให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย
กรณี นายสิทธ์สวัสดิ์ เอี่ยมลาภะ อายุ 21 ปีเสียชีวิตในห้องขัง สน.บางนา หลังถูกควบคุมตัวจากด่านตรวจแอลกอฮอล์ วัดได้ 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งระหว่างเป่าซ้ำหมดสติฟุบคาโต๊ะตรวจ ก่อนที่ตำรวจควบคุมตัวไป สน.บางนา ซึ่งมารดาของผู้ตายยังติดใจการเสียชีวิตของลูก พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรอย่างละเอียด เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตจากหัวล้มเหลว ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวน โดยมีผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นหัวหน้าชุด ตรวจสอบการตายระหว่างควบคุม ซึ่งจะทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในวันนั้น ตั้งแต่ร้อยเวร ตำรวจประจำด่านตรวจ คาดทราบผลภายใน 2-3 วันนี้ พร้อมยืนยันให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย หรือญาติมีข้อสงสัยติดใจก็สามารถแจ้งเข้ามาได้ ทั้งนี้รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น