ปตท.ยืนยันดูราคาน้ำมัน แม้แยกเป็นบริษัทเข้าตลท.

 


กรุงเทพฯ 18 พ.ย. -ปตท.ยืนยันดูแลราคาน้ำมันไม่ให้กระทบ แม้จะแยกธุรกิจค้าปลีกทั้งน้ำมันและแอลพีจี เป็นบริษัทกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) เพื่อโปร่งใสและเป็นไปตามรัฐธรรรมนูญใหม่  ส่วนการค้าน้ำมันเพื่อความมั่นคงทั้งภาคราชการ-รัฐวิสาหกิจ เช่น ขสมก. รฟท. ยังอยู่กับ ปตท.ต่อไป

ภายหลัง คณะกรรมการ บมจ.ปตท.เห็นชอบแผนปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ ปตท. โดยให้แยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ออกมาเป็นบริษัทและกระจายหุ้นในอนาคตนั้น ทางผู้บริหาร ปตท. ได้ชี้แจงต่อพนักงาน สื่อมวลชน และนักวิเคราะห์ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ปตท. ยืนยันว่า การตัดสินใจปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ ปตท. ได้ศึกษาแนวทางอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทั้งพนักงาน ปตท. ประชาชนผู้ใช้บริการและพันธมิตรธุรกิจ รวมถึงยังคงเจตนารมณ์การเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ  โดยในส่วนของการค้าปลีกน้ำมัน ทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการเดิม เช่น กลไกราคา ไม่กระทบประชาชน  ซึ่งปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันและแอลพีจี จะขึ้นลงตามกลไกราคาตลาดโลก และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยกระทรวงพลังงาน


นายเทวินทร์ กล่าวว่า  การค้าน้ำมันกับภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อความมั่นคงในส่วนนี้จะไม่แยกออกไปยังบริษัทใหม่แต่อย่างใด รวมถึงคลังแอลพีจีเขาบ่อยาที่สร้างขึ้นมาใหม่ ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้สร้างเพื่อการอุดหนุนการนำเข้าแอลพีจี ก็จะยังคงอยู่กับ ปตท.  ส่วนพนักงาน ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่มีประมาณ 1,500 คน จาก พนักงานทั้งหมด 4,000 คน นั้น ทาง ปตท.เปิดทางเลือกว่า พนักงานจะอยู่กับ ปตท.หรือจะโอนไปเป็นพนักงานของบริษัทใหม่ ซึ่งจะมีผลตอบแทนที่เหมาะสม ส่วน ระยะเวลากระจายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก หรือ ไอพีโอยังไม่สามารถระบุได้เพราะต้องดำเนินการทั้งของความเห็นชอบจากภาครัฐและผู้ถือหุ้นที่ปกติจะมีการประชุมในเดือนเมษายนของทุกปี

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน  ปตท. กล่าวว่า การปรับโครงสร้างฯครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจน้ำมันให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงขยายตัวสู่ธุรกิจค้าปลีกไปสู่ต่างประเทศ และยังเป็นการดำเนินการรองรับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำหนดให้ธุรกิจใดที่เอกชนแข่งขันได้โดยสมบูรณ์ ก็ไม่ควรให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการ

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปตท. มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ ปตท. โดยให้แยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกมาอยู่ภายใต้ บริษัท ปตท. ธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ (“PTTRB”) ที่จะทำการเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (“PTTOR”) ในลำดับต่อไป เพื่อให้บทบาทหน้าที่แต่ละกลุ่มธุรกิจมีความชัดเจนโปร่งใส คล่องตัวและเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  และให้ PTTOR เป็นบริษัทแกน (Flagship Company) ของกลุ่มปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและ ค้าปลีก โดยธุรกิจที่ถูกโอนย้าย ประกอบด้วย   1.ธุรกิจน้ำมัน ประกอบด้วยค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการทั้งในและต่างประเทศ ค้าเชิงพาณิชย์น้ำมัน แอลพีจี และเชื้อเพลิงอื่นๆ อาทิ จำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยาน จำหน่ายแอลพีจีในครัวเรือนและสถานีบริการ ฯลฯ จำหน่ายเชื้อเพลิงหล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศ และบริหารโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน อาทิ ด้านขนส่งหรือจัดเก็บ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ตอบสนองต่อลักษณะการเติบโตของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และ 2. ธุรกิจค้าปลีกด้านอื่นๆ และให้บริการด้านบำรุงรักษายานยนต์ จะครอบคลุมการบริหารค้าปลีกและงานขายภายใต้แบรนด์ ปตท. และอื่นๆ อาทิ คาเฟ่อเมซอน ฟิตออโต้ รวมถึงริเริ่มสร้างธุรกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม แฟรนไชส์และโรงแรม


ปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มน้ำมันรวมประมาณ 1,400 แห่ง เป็นปั๊มของดีลเลอร์ประมาณ 1,000 แห่ง  มีนโยบายในการช่วยยกระดับและพัฒนาภาคธุรกิจรายย่อยของไทย ทั้งเอสเอ็มอีและโอทอปซึ่งมีผู้ประกอบการเกี่ยวข้อง 1,600 ราย มีการจ้างงานเกี่ยวข้องรวม 50,000 ตำแหน่ง โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มี บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษา โดยงบการเงินรวมเสมือน ณ วันที่ 30 ก.ย.2559 ธุรกิจนี้ มีสินทรัพย์รวมหลังรับโอนกิจการ 86,405 ล้านบาทมีหนี้สินรวม45,952 ล้านบาท  เป็นส่วนของผู้ถือหุ้น 40,453 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่านรวม 353,613 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 13,577 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

ตร.ส่งสัญญาณจับตายโจรมาเลย์ชิงทอง

ตำรวจประชุมเร่งรัดคดีชายชาวมาเลเซียชิงทอง 184 บาท กลางเมืองหาดใหญ่ ย้ำใช้หลักยุทธวิธีไม่ประมาท เพราะคนร้ายมีปืน ส่งสัญญาณอย่าคิดต่อสู้ ตำรวจพร้อมป้องกันตัว

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่เน้นใช้เครื่องจักรสลับทีมกู้ภัย คาด 2 วัน พบผู้สูญหายมากขึ้น