ยธ. 1 มี.ค.-รมว.ยุติธรรม เผยการเข้าพบนายกฯ เพื่อรายงานผลปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งจะมีปรับแผนบางส่วน กรณีปิดล้อมวัดอีกนานหรือไม่ แล้วแต่สถานการณ์ ขอความร่วมมือพระ-ศิษย์ ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ พร้อมรับข้อเสนอผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาฯ ตั้งคณะตัดสินเพื่อระงับอธิกรณ์ตามวินัยสงฆ์
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึง กรณีที่ค่ำวานนี้ (28ก.พ.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกเข้าพบด่วน พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวว่า เป็นการเข้าไปรายงานผลปฏิบัติงานในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้หารือกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คณะสงฆ์และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว ว่าจะมีการปรับแผนปฏิบัติการบางส่วนเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ไม่สามารถเปิดเผยในส่วนรายละเอียดได้ เพราะแผนปฏิบัติการต้องดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนจะใช้เวลาปิดล้อมเพื่อเข้าตรวจค้นไปอีกนานเท่าใด เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ แต่ท้ายที่สุด หากการเจรจาหรือการดำเนินการของฝ่ายสงฆ์ไม่บรรจุผลหรือยังไม่มีการตอบรับใดๆจากวัดพระธรรมกาย สังคมคงจะเห็นและทราบอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะรัฐบาลพยายามหาทางออกที่เหมาะสมแล้ว
ส่วนการดูแลพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายนั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานให้ทางด้านเจ้าคณะใหญ่หนกลาง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคมเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหา ทั้งการดูแลเรื่องอาหารและการออกคำสั่งต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชน และพระที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ เพราะอาจมีความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายได้
ส่วนข้อเสนอพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิราช ที่ออกมาระบุอยากให้รัฐบาลหารือกับทางคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม เพื่อแก้ไขปัญหาคดีวัดพระธรรมกาย โดยมีการตั้งคณะตัดสินเพื่อระงับอธิกรณ์ตามวินัยสงฆ์นั้น ส่วนความผิดอาญาขอให้เป็นขั้นตอนหลังจากนั้น เรื่องนี้ ส่วนตัวน้อมรับแนวทางนี้เพราะถือเป็นข้อเสนอที่ดี และพร้อมดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อยุติ ที่ผ่านมาตัวแทนของหน่วยงานด้านความมั่นคงได้หารือกับพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่มาตลอด ซึ่งต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงานด้วย.-สำนักข่าวไทย