กทม.2 มี.ค.- ตำรวจนำเจ้าหน้าที่มูลนิธิแถลงข้อเท็จจริงการเข้าช่วยชีวิตผู้ช่วยเภสัชกร ย้ำไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ขอความเป็นธรรมกับการทำหน้าที่อย่างเต็มที่แต่ถูกกล่าวหา ส่วนผลชันสูตรเบื้องต้นพบเสียชีวิตจากปอดอักเสบติดเชื้อ
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมกันแถลงผลการชันสูตรพลิกศพนางสาวพัฒนา เชียงแรง ผู้ช่วยเภสัชกรว่าวันนี้ (2 มี.ค.) แพทย์ชันสูตรการตายลักษณะนี้ เป็นการตายผิดธรรมชาติ และแพทย์ได้ออกหนังสือรับรองการเสียชีวิตโดยลงความเห็นว่า ปอดอักเสบติดเชื้อ ซึ่งญาติจะนำไปออกใบมรณบัตรตามขั้นตอน ยังไม่ใช่การชันสูตรโดยละเอียดในที่เกิดเหตุ มีการเก็บยาที่พบในที่เกิดเหตุ โดยหลายประเภท อาทิ ยาขยายหลอดลม ยาฆ่าเชื้อ จึงนำส่งแพทย์เพื่อตรวจพิสูจน์ประกอบผลการชันสูตร
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันว่า เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ล่าช้าตามที่มีการกล่าวหา ภายหลังจากได้รับแจ้งทีมกู้ชีพใช้เวลาเพียง 17 นาที ในการเข้าถึงตัวผู้เสียชีวิต ไม่มีการกีดกันจากการตั้งด่านตามที่ถูกกล่างหา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทีมกู้ชีพพยายามปั๊มหัวใจแต่พบว่าสัญญาณชีพจรหายไปแล้ว
ขณะที่ทีมกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ตนและกู้ชีพทุกคนก่อนหน้านี้ มีข้อตกลงกับทีมกู้ชีพของวัดว่า จะต้องนำส่งผู้ป่วยที่ประตู 7 เพียงประตูเดียว ซึ่งวัดก็รู้ดีถึงข้อตกลงดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด การทำงานต้องการมาดูแลผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บทุกคน เหตุการณ์ครั้งนี้ทุกคนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเราพยายามทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เราทำกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเราทำไม่เต็มที่ จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย.-สำนักข่าวไทย