ธีรยุทธ” ชำแหละ 3 ปี คสช.ปฏิรูปไม่สำเร็จ

_20856898กรุงเทพฯ 3 มี.ค.-” ธีรยุทธ” ชำแหละ 3 ปี คสช. คนไทยได้แค่ความสบายใจ  ปฏิรูปไม่สำเร็จ   ระวังจะเป็น “ตู่ต้นเตี้ย- ตู่เตี้ยลง”  เหตุตั้งสารพัดกรรมการแต่ไร้ผลงาน  ทำมนต์ขลังเสื่อม กลายเป็น “ยุทธ์เรือโยง ป้อมเรือพ่วง ”  แต่เชื่อไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจประชาธิไตย  แต่อย่าอยู่ในอำนาจเกินโรดแมป  ควรเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านกายภาพ  จัดการปัญหา ปตท.ไม่คืนท่อก๊าซ  ฟื้นศรัทธาประชาชน


นายธีรยุทธ บุญมี  นักวิชาการจากวิทยาลัยวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  แถลงวิเคราะห์ทิศทางอนาคตการเมืองไทย  ภายใต้การบริหารของรัฐบาล คสช.ว่า กำลังวิ่งเข้าสู่วิถีอนุรักษ์และจารีตนิยมโดยมีความหวังในการปฏิรูประดับโครงสร้างอำนาจน้อยมาก  เพราะผู้มีอำนาจล้วนเป็นข้าราชการ   ที่จะเป็นผู้สูญเสียอำนาจหากมีการปฏิรูป ในขณะที่การดำเนินงานของคสช.อาศัยข้าราชการทุกหน่วยงานเป็นหลัก นโยบายก็เพิ่มอำนาจให้กับข้าราชการไม่มีการกระจายอำนาจให้กับประชาชน แม้จะมีการตั้งซุปเปอร์บอร์ด แต่กลับแต่งตั้งนายทหารเหล่าทัพต่างๆ จำนวนมากไปเป็นบุคคลากร ซึ่งไม่ปราฎผลงานปฎิรูปใด ๆ

นักวิชาการสาธารณะ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ก็เป็นเพียงรับงานตามความต้องการของ คสช.ไม่ได้ตั้งเป้าปฏิรูปองค์กร    ส่วนบุคคลากรในแม่น้ำ 5 สาย  เกือบทั้งหมดล้วนมีความคิดแบบอนุรักษ์และจารีตนิยม   แม้มีผลงานที่ดีอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีความหวังเรื่องการปฏิรูป  ยังแสดงออกว่า จะผลักดันให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในอำนาจต่อไป  เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจด้วย   ดังนั้น จากเรือแป๊ะ แม่น้ำ 5 สาย จึงเริ่มกลายเป็น  “ยุทธ์เรือโยง ป้อมเรือพ่วง  ลากจูงอย่างทุลักทุเลมากขึ้น  จนอาจเกยหาดหรือติดเกาะได้ถ้ายังฝืนอยู่ในอำนาจเกินโรดแมป”


นายธีรยุทธ   กล่าวด้วยว่า  เกือบ 3 ปี  จากการบริหารของ คสช.ถือว่าประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มีความสนุกสนาน  ได้ความสบายใจ  มีการจัดระเบียบ กำหนดนโยบายใหม่  แต่เชื่อว่าการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจจะไม่เกิดเพราะไม่อยากทำ  รวมถึงการวางระบบและการบูรณาการต่างๆ ก็ไม่เห็นผล   อย่างไรก็ตามไม่เชื่อว่า ความขัดแย้งแบบเก่าจะกลับมา  เพราะไม่ง่ายที่จะปลุกระดม  จึงไม่ห่วงเรื่องปรองดอง การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ 2 ฝ่ายอยู่ในฐานะที่ชัดเจนแล้ว คือมองเห็นผลลัพธ์สุดท้ายว่าจะแพ้ หรือชนะได้แน่นอนแล้ว  หรือหากยื้อต่อไป ต่างฝ่ายจะสูญเสียเพิ่ม จึงหันมาพูดจากันเพื่อให้ทุกฝ่ายชนะคือ วิน วิน  แต่อาจต้องใช้เวลา ซึ่งรัฐบาลต้องมีแนวนโยบายที่ถูกต้องทำงานปฏิรูปให้ได้ผล จะเป็นการช่วยไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

นักวิชาการสาธารณะ กล่าวว่า มนต์ขลังจากการบริหารที่ประชาชนเห็นว่าทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเริ่มเสื่อม  ส่งผลให้ความมั่นใจในรัฐบาลเริ่มคลอนแคลน  แต่ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาแทรกซ้อนโครงสร้างทางประชาธิปไตยจากสถานการณ์นี้  เพราะขณะนี้อยู่ในสภาวะสั่นไหว  คลอนแคลน   ก็ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าเสียคำพูดเรื่องโรดแมปให้มีการเลือกตั้ง  และต้องพร้อมเผชิญหน้ากับปัญหาหลังการเลือกตั้งต่อไป   โดยควรมุ่งเน้นเกี่ยวกับงานโครงสร้างอำนาจ  หรือการวางรากฐานเช่น การปราบคอรัปชั่น  ที่ยังไม่มีความคืบหน้า  รวมถึงจัดการกับคดีใหม่เช่น เชฟรอน  รถญี่ปุ่นเลี่ยงภาษี  ปตท.ไม่ยอมคืนท่อก๊าซ  ปราบปรามอิทธิพลนอกระบบให้มีความคืบหน้า   ซึ่งจะช่วยดึงศรัทธาจากประชาชนกลับมาได้   ไม่เช่นนั้นประชาชนอาจจะนึกถึงภาพรัฐบาล “ตู่ต้นเตี้ย หรือตู่เตี้ยลง” ก่อนที่จะจบโรดแมปของ คสช.

“ขอทำความเข้าใจว่า ตู่ต้นเตี้ย เป็นคำโบราณ  หมายถึงว่าอย่ามายอฉันเลย  เหมือนเตยต้นเตี้ย  คือ เป็นคนดีแต่อาภัพ  อับวาสนา ที่เปรียบแบบนี้  เพราะลุงตู่ชอบน้อยใจอยู่เรื่อยว่าทำงานเหนื่อย  แต่ไม่มีคนเห็นใจ   ส่วนตู่เตี้ยลง ก็เหมือนสาละวันเตี้ยลง  แต่ลุงตู่ก็มีผู้สนับสนุน เดี๋ยวก็มีคนมาเชียร์ให้ลุกขึ้น เหมือนเพลง สาละวันลุกขึ้น ลุกขึ้นสาละวัน พุดแบบนี้เป็นการแหย่กันในเชิงกวี เพราะเห็นว่านายกก็เป็นนักเลงกลอน”นายธีรยุทธ กล่าว


นายธีรยุทธ กล่าวว่า การบริหารของ คสช.ในขณะนี้  เริ่มอยู่ในสภาพเรือแป๊ะพายวน   โดยเฉพาะเกี่ยวกับมาตรการสร้างความปรองดอง และการวางแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ มีการตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2 ชุด กรรมการปฏิรูป 2 ชุดกำหนดยุทธศาสตร์ 20 ปีรวม 3 แผนใหญ่ แต่ไม่มีผลงานที่ให้ความมั่นใจได้ว่า จะแก้ปัญหาได้จริงแม้แต่ชุดเดียว จึงเห็นว่าคสช.ตั้งธงความคิดกับยุทธศาสตร์แก้ปัญหาประเทศผิดพลาด เพราะไปมองว่า พรรคการเมือง นักการเมืองคือที่มาของวิกฤต เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ต้องทอนอำนาจและบทบาทหน้าที่ลง  ทั้งที่ความจริงแล้ว จากความล้มเหลวที่ผ่านมาจะทำให้พรรคการเมืองจะต้องปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว   จึงควรจัดวางยุทธศาสตร์ให้ภาคสังคม ประชาชน เข้ามามีสิทธิอำนาจควบคู่กับความรับผิดชอบมากขึ้น  โดยสร้างความเข้มแข็งเพื่อถ่วงดุลกับภาคการเมือง

นักวิชาการสาธารณะ กล่าวว่า ควรวางรากฐานความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปเพื่อให้พ้นจากปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซ้ำซ้อน และปัญหากลุ่มอุปถัมภ์ทั้งแบบหนี้บุญคุณให้หมู่คนจน และการอุปถัมป์ในระดับคนรวยที่เรียกว่า เป็นกลุ่มอุปถัมภ์อภิสิทธิ์  จากการสร้างเครือข่ายคอนเนกชั่นในกลุ่มผู้มีอำนาจ 5 กลุ่มประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่อยู่ในฝ่ายยุติธรรม บริหาร นิติบัญญัติ และงบประมาณ รวมถึงนักกรเมือง นักธุรกิจ นักวิชาการแทคโนเครตต่าง ๆ ที่สร้างเครือข่ายผ่านหลักสูตรพิเศษจากหลายหน่วยงาน โดยเห็นว่า เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากเครือข่ายเหล่านี้ ทำให้เกิดผลกระทบด้านการตัดสินคดีความ การวางโปรเจคต่าง ๆ การจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเป็นไปในลักษณะเมตตามหานิยม ตอบแทนซึ่งกันและกัน และยังเป็นห่วงเรื่องการยกระดับความเลวร้าย  จากความตกต่ำด้านศีลธรรม ส่งผลต่อค่านิยมที่อาจพัฒนาไปถึงขั้นว่า จำเป็นต้องโกง ไม่โกงจะถูกกลั่นแกล้งจนอยู่ไม่ได้

นายธีรยุทธ ยังเสนอแนวทางแก้ปัญหา  โดยให้รัฐบาลปฏิรูปประเทศ ในลักษณะให้แผนการดำเนินการไม่ใช่โปรแกรมทางความคิด โดยต้องแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางกายภาพ  อาจใช้มาตรา 44  แบ่งงบประมาณไปช่วยคนจน และปฏิรูปการศึกษาแบบสองทาง คือสร้างระบบจูงใจแล้วคัดกรองครู ที่จะเข้าไปในสถานศึกษา เริ่มจากจังหวัดละหนึ่งแห่ง ภาคละหนึ่งแห่งแล้วจึงขยายต่อไป รวมถึงปรับปรุงหลักสูตรให้ง่ายขึ้นเพื่อเหมาะสมกับโลกาภิวัฒน์ด้วย  ให้รัฐบาลทำเป็นเรื่อง ๆ เชื่อว่าภายใน 6 เดือนก็จะเห็นผล  แต่การปฏิรูปจะสำเร็จก็ขึ้นกับผู้มีอำนาจมีศิลปะในการใช้อำนาจหรือไม่ และมีเจตจำนงในการปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ ถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์  ถืออำนาจพิเศษในสถานการณ์พิเศษ  ต้องยึดหลักการให้ว่าการปฏิรูปจะสำเร็จต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมและต้องขยายอำนาจให้ประชาชนมาช่วยค้ำจุน   อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ว่า ประเทศไทยอาจต้องเดินไปตามบุญตามกรรม  โดยไม่มีการปฏิรูปเพราะอาจเกินกำลังของกลุ่มบุคคลใด  บุคคลหนึ่งเนื่องจากเมืองไทยไม่มีวัฒนธรรมที่จะร่วมมือกันแก้ปัญหาใหญ่ด้วยตัวเอง   เชื่อว่าหลังรัฐบาล คสช.หมดอำนาจ ปัญหาที่มีการแก้ไขหรือจัดระเบียบไป 60-70 % จะกลับมาเหมือนเดิม

สำหรับการใช้มาตรา 44 ในการบริหารประเทศของรัฐบาลคสช.นั้น นายธีรยุทธ กล่าวว่า  ไม่สามารถที่จะไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ แม้ว่า รัฐบาลต่อไปจะไม่สามารถใช้อำนาจพิเศษเช่นนี้ได้ ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาหลังการเปลี่ยนผ่านอำนาจ แต่ในขณะที่มีอำนาจพิเศษก็ควรใช้ได้ดีและเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะต้องยอมรับว่าคนไทยมีลักษณะยอมรับอำนาจนิยม แต่ผู้ใช้ก็ต้องใช้อย่างถูกต้อง ส่วนกลุ่มคนที่ออกมาคัดค้านการใช้อำนาจพิเศษ หากทำโดยบริสุทธิ์ ตนก็เห็นใจ เพราะก็เคยผ่านการต่อสู้เช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม การออกมาเคลื่อนไหวไม่ควรมีผลประโยชน์ ขณะที่ผู้มีอำนาจก็ควรให้ความสำคัญกับเสรีภาพทางวิชาการด้วยเพราะเป็นประโยชน์กับทั้งผู้มีอำนาจและสังคม

อย่างไรก็ตามก่อนการแถลงข่าว นายธีรยุทธ   ได้ออกตัวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้เป็นศัตรู หรือผู้สนับสนุน คสช.  แต่เป็นการทำงานทางวิชาการที่เคยทำมาตลอดทุก 1 ปี  จะวิเคราะห์สถานการณ์ เพียงแต่ไม่ได้ทำมา 3 ปีแล้ว  และเห็นว่าในขณะนี้มีความจำเป็นต้องแสดงความเห็นเพื่อเสนอแนะ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝน ภาคใต้หนักสุด

กทม. 14 ก.ย.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคใต้เตรียมรับมือฝนถล่ม ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา เผยภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ส่วนประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]