บุรีรัมย์ 19 ก.พ.-บุรีรัมย์ส่อเผชิญภัยแล้งรุนแรง น้ำในแม่น้ำมูลลดฮวบจนเห็นสันดอนทราย เกษตรกรต้องงดทำนาปรังต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 วอนรัฐเร่งสำรวจสร้างฝายหรือเขื่อนยางให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ทำนา เลี้ยงปลา และอุปโภคบริโภคได้เพียงพอตลอดปี
จังหวัดบุรีรัมย์เผชิญสถานการณ์ภัยแล้งคุกคามทั้งที่ช่วงนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้งเต็มตัว น้ำในแม่น้ำมูลที่ใช้ทั้งในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และเลี้ยงปลากระชัง เริ่มลดระดับลงอย่างรวดเร็ว บางจุดตื้นเขินจนเห็นสันดอนทราย ส่งผลให้เกษตรกรทั้ง 10 หมู่บ้านใน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จึงต้องงดสูบดึงน้ำจากแม่น้ำมูลขึ้นมาทำนาปรัง ตามประกาศขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วง เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการผลิตประปาบริการประชาชน ให้มีน้ำอุปโภคบริโภคให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้
ทั้งนี้ เกษตรกรทั้ง 10 หมู่บ้านดังกล่าว เคยเพาะปลูกข้าวนาปรังมากกว่า 5,000 ไร่ ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 แล้วที่เกษตรกรต้องงดทำนาปรังตามประกาศขอความร่วมมือของทางภาครัฐ ทำให้เกษตรกรโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยแรงงานต้องอพยพเคลื่อนย้ายไปรับจ้างยังต่างถิ่น หรือทำอาชีพอื่นเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว ต้องปล่อยพื้นที่ที่เคยทำนาปรังทิ้งร้าง
นายจันทรา ศาลางาม อายุ 68 ปี เกษตรกรบ้านส้มโฮง ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้งเต็มตัว แต่ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลก็เริ่มลดระดับลงอย่างรวดเร็ว อบต.จึงได้ประกาศให้เกษตรกรที่อาศัยอยู่ติดริมน้ำมูลงดทำนาปรัง ซึ่งเกษตรกรก็ให้ความร่วมมือไม่ใช้เครื่องสูบน้ำทุกชนิดสูบน้ำจากลำน้ำมูลขึ้นมาทำนาปรัง เพราะเกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปา อีกทั้งหากสูบน้ำขึ้นมาทำนาปรัง ก็เกรงว่าลำน้ำมูลจะตื้นเขินแห้งขอด จนอาจส่งผลกระทบกับปลาและสัตว์น้ำไม่มีที่อยู่อาศัยและสูญพันธุ์ได้
“จากผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอยากร้องขอให้ภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจสร้างฝายหรือเขื่อนยาง เพื่อกักเก็บน้ำมูลไว้ใช้ผลิตประปา ทำการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ได้ตลอดทั้งปีด้วย”เกษตรกรบ้านส้มโฮง กล่าวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย