กองทัพบก 21 พ.ย.-เลขาธิการ คสช.ร่วมรวมพลังประกาศวามจงรักภักดี 22 พ.ย.นี้ กำชับทุกส่วนของ คสช.เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว พร้อมย้ำกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจัดระเบียบสังคมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า วันนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดย พล.อ.เฉลิมชัย ได้กล่าวถึงการจัดงาน “รวมพลังเพื่อน้อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9” ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เวลา 08.00 น. เพื่อประกาศความจงรักภักดี และร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 โดยให้ทุกส่วนของ คสช.เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวอย่างกว้างขวาง พร้อมย้ำว่านอกจากการจัดกิจกรรมในลักษณะถวายความอาลัย รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมถึงการเผยแพร่พระเกียรติคุณแล้ว สิ่งสำคัญ คือ การสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ให้เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย โดยกำชับให้ทุกส่วนงานนำโครงการตามแนวพระราชปณิธานที่ดำเนินการเสร็จสิ้นและบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการแล้วมาขยายผล เผยแพร่สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการเร่งสานต่องานในโครงการตามแนวพระราชปณิธานที่กำลังดำเนินการอยู่ให้เกิดความต่อเนื่องและบรรลุผลในที่สุด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการสนับสนุนงานที่เกี่ยวเนื่องกับการอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เลขาธิการ คสช.ได้ติดตามการดูแลประชาชนของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) มาตลอด โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ทุกส่วนทำงานได้อย่างเรียบร้อย บริหารจัดการทั้งพื้นที่และอำนวยความสะดวกประชาชนได้เป็นอย่างดี แต่ขอให้พิจารณาลดระยะเวลาการรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ รวมทั้งการคัดกรองประชาชนเข้าสู่พื้นที่สนามหลวงให้มีความรอบคอบที่สุด โดยเฉพาะในวันหยุดต่อเนื่อง
“การประชุมในวันนี้ เลขาธิการ คสช.ย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของแต่ละพื้นที่ในลักษณะสนับสนุนส่วนราชการที่รับผิดชอบโดยตรง โดยระบุด้วยว่า คสช.ยังคงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนและบริหารจัดการในทุก ๆ ปัญหาของสังคม เพื่อดูแลให้ภาพรวมของประเทศมีความเรียบร้อย พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประสานงานและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจัดระเบียบสังคมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยใช้กลไกของส่วนราชการที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นหลัก รวมทั้งการปฏิบัติภารกิจในด้านอื่น ๆ เช่น ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย, การพนัน, การช่วยสนับสนุนตามมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การช่วยรับซื้อข้าว การสกัดกั้นการลักลอบนำผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย นอกจากนี้ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ ทั้ง ภัยหนาว ไฟป่า และหมอกควัน เป็นต้น” รองโฆษก คสช.กล่าว.-สำนักข่าวไทย