ทำเนียบฯ 22 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี นำ ครม. และข้าราชการ ร่วมกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร้องเพลงชาติ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดี และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะเดียวกัน มีประชาชนจำนวนมากมาร่วมกิจกรรม แม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 พ.ย.) รัฐบาลได้จัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันทั่วประเทศ โดยที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.00 นาฬิกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี และข้าราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กว่า 3,000 คน ร่วมร้องเพลงชาติ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพลงสรรเสริญพระบารมี
นายกรัฐมนตรี นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า “ขอนำประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทุกภาคส่วน ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อม ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย
อีกทั้ง ทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยในทุกด้าน ตลอดมาเป็นเวลาถึง 70 ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชนชาวไทย ด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน จึงขอตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทน ว่าจะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
และ จะปฏิบัติหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย
อีกทั้ง จะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติ ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสุข สันติสุข จะรู้รักสามัคคี เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ และประชาชน และพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืน ในการพัฒนาประเทศต่อไป
จะประพฤติปฏิบัติ ตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยา มาเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุขความเจริญ ของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของราชอาณาจักรไทยสืบไป”
สำหรับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในขั้นตอนของกิจกรรมในจุดไว้อย่างสวยงาม และสมพระเกียรติ โดยนำพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขนาดใหญ่ มาประดิษฐาน ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าจัดทำเป็นเวทีกลาง เพื่อเป็นพื้นที่ให้นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธานในพิธี ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งของเวทีติดจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ฉายภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบัน และมีวงดนตรีดุริยางค์ศิลป์จากกรมศิลปากรมาร่วมบรรเลงเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี และบทเพลงพระราชนิพนธ์
พื้นที่บริเวณสนามหญ้า ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และถนนโดยรอบจะจุคนได้ประมาณ 3พัร คน ข้าราชการ จะแต่งการด้วยชุดขาวปลอกแขนดำไว้ทุกข์ พนักงานรัฐวิสาหกิจแต่งกายด้วยชุดดำสุภาพ สตรีผ้าถุงยาวหรือกระโปรงคลุมเข่า และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมด้วย
นายกฯ-ผู้ร่วมงานมาถึงตั้งแต่ 06.15 น.
นายกรัฐมนตรี และข้าราชการที่เข้าร่วมกิจกรรม แต่งกายด้วยชุดปกติขาว ปลอกแขนดำไว้ทุกข์ ส่วนพนักงานรัฐวิสาหกิจ แต่งกายด้วยชุดดำสุภาพ สตรีใส่ผ้าถุงยาวหรือกระโปรงคลุมเข่า มาถึงในบริเวณพิธี เวลา 06.15 น. รวมตัวที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก และมารวมพลที่สนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 07.00 น. เพื่อร่วมร้องเพลงชาติ เวลา 08.00 น. จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และมีการถ่ายทอดสดตลอดระยะเวลาของการจัดกิจกรรม
โดยส่วนของกรุงเทพฯ จัดกิจกรรมหลายพื้นที่ อาทิ ลานคนเมือง กทม. ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ที่ทำการของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต โรงเรียน และสถานพยาบาลในสังกัด กทม.
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด ได้มอบให้ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แยกไปจัดในรูปแบบเดียวกัน และเชิญชวนข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีอยู่ด้านนอกทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมกิจรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้ามาอยู่บริเวณถนนทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ริมคลองเปรมประชากร ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อร่วมกิจกรรมไปพร้อมๆ กับนายกรัฐมนตรี ตัวแทนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ และร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พร้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้
ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมบอกว่า จะรักและจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ผ่านมาได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตมาตลอด และต้องการให้คนไทยทำความดี รู้รักและสามัคคี เพื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บางคนบอกว่า แม้ว่าจะยังไม่ได้เข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง แต่ก็ได้ไปร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยเก็บขยะ และแจกจ่ายอาหาร ให้กับประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ บริเวณท้องสนามหลวงเกือบทุกวัน ดังนั้น จึงต้องการให้คนไทยรู้จักแบ่งปันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันด้วย .- สำนักข่าวไทย