ทำเนียบฯ 22 พ.ย. – ครม.เห็นชอบ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อระยะที่ 6 ปรับลดเงื่อนไขค่าธรรมเนียม และรับรองความเสียหาย เนื่องจากระบบค้ำประกันสินเชื่อเริ่มได้รับความนิยม
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) หรือ PGS ระยะที่ 6 หลังจากระบบค้ำประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เริ่มได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเป็นเครื่องมือการผลักดันให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบตั้งแต่ปี 2552 ผ่านมา 5 ระยะ สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 114,000 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงาน 403,000 คน มีสินเชื่อออกสู่ระบบ 366,000 ล้านบาท จากยอดค้ำประกันสินเชื่อ 380,000 ล้านบาท เฉลี่ยผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อ 3 ล้านบาทต่อราย
สำหรับการประกันสินเชื่อระยะที่ 6 ได้ปรับเงื่อนไข เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐบาล อีกทั้ง บสย.เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นเครื่องมือให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จึงกำหนดว่าผู้ขอรับสินเชื่อต้องเป็นผู้ประกอบการที่ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและยืดเวลาการประกันจากเดิม 7 ปี เป็น 10 ปี การคิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันร้อยละ 1.75 จากเดิมภาระค่าธรรมเนียมลดลงตามสัดส่วน และหากเกิดความสูญเสียจากหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่เกินร้อยละ 20 ของพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร รัฐบาลชดเชยร้อยเปอร์เซ็นต์ หากเกิดความเสียหายร้อยละ 20-25 ของพอร์ตสินเชื่อธนาคาร รัฐบาลจ่ายชดเชยร้อยละ 50 และหากเกิดความเสียหายร้อยละ 25-28 ของพอร์ตสินเชื่อ รัฐบาลชดเชยให้ร้อยละ 25 ทั้งนี้ เพื่อลดภาระงบประมาณของรัฐ เพื่อจ่ายชดเชยเฉพาะค่าประกันความเสียหาย วงเงินไม่เกิน 5,750 ล้านบาท
ส่วนคุณสมบัติผู้ยื่นค้ำประกันสินเชื่อ ต้องมีทรัพย์สินถาวรไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท ประเภทบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย และประกอบกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย และต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี ระยะเวลาค้ำประกัน 10 ปี วงเงินค้ำประกันไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน 33,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินรวม 168,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 458,000 ล้านบาท ยื่นค้ำประกันสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากขึ้นผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. โดยเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายและสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย. .-สำนักข่าวไทย