กรุงเทพฯ 23 พ.ย.-เหลือเวลาอีกแค่ 2 วัน สะพานข้ามแยกรัชโยธินจะปิดตัวลงถาวร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรอย่างแน่นอน วันนี้เราไปติดตามมาตรการรับมือ และเส้นทางหลีกเลี่ยงปัญหารถติดขัด
ตำรวจจราจรจะใช้มาตรการเชิญชวนให้ผู้ใช้รถหาเส้นทางอื่นสัญจรทดแทน เพื่อลดปริมาณรถยนต์ให้เหลือเฉพาะรถยนต์ที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าพื้นที่สี่แยกรัชโยธินเท่านั้น โดย 7 เส้นทางหลักประกอบด้วย ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนเกษตรนวมินทร์ ถนนสุทธิสาร ถนนลาดพร้าว-วังหิน ถนนโชคชัยสี่ และทางพิเศษศรีรัช รวมถึงเส้นทางย่อยตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก เช่น ซอยรัชดาฯ 48 ออกพหลโยธิน 35 หรือรัชดาฯ 46 ออกพหลโยธิน 33 พหลโยธิน 30 ออกรัชดาฯ 36 วิภาวดีรังสิต 30 ออกพหลโยธิน 21 หรือวิภาวดี 32 ออกพหลโยธิน 23 เป็นเส้นทางหลัก ที่ตำรวจจราจรแนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้ในวันพรุ่งนี้ หลีกเลี่ยงเส้นทางหลักบริแวณแยกรัชโยธิน เพราะจะทดลองปิดการจราจรในเวลา 08.00-17.00 น.
ขณะเดียวกัน มีการจัดกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวก บริเวณจุดตัดและแยกสำคัญๆ ถึง 20 นาย รวมถึงมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือหากมีปัญหารถจอดเสียหรืออุบัติเหตุในเส้นทางดังกล่าวทั้ง 7 เส้นทาง แต่หากมีจำเป็นต้องใช้เส้นทางรัชดาฯ ตัดพหลโยธิน ผู้ใช้รถต้องบริหารจัดการด้านเวลาให้รอบคอบ
ตลอด 2 วันที่ผ่านมามีการประเมิน รวมถึงสำรวจจำนวนรถยนต์ที่มาจากถนนรัชดาภิเษกผ่านแยกนี้ถึงเกือบ 100,000 คัน ในทางกลับกันรถที่มาจากแยกรัชโยธินเข้าถนนรัชดาภิเษกมีเพียง 50,000 คันเท่านั้น และพบว่ารถที่มาจากถนนรัชดาภิเษกเมื่อเข้าสู่แยกรัชโยธินต้องจอดรอสัญญาณไฟนานเกินไป ทำให้ตำรวจจราจรและตำรวจ สน.พหลโยธิน ต้องหาทางแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนศึกษาเส้นทางอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง รวมถึงตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนการเดินทาง ป้องกันปัญหาการจอดเสียบนท้องถนนในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือเตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินในกรณีที่เกิดปัญหา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าแก้ไขสถานการณ์หรือช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย