วางทุ่นชุดใหม่ทะเลอันดามันตรวจวัดคลื่นสึนามิ

ภูเก็ต 16 พ.ย.- รองอธิบดี ปภ. ลงภูเก็ตปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทะเลอันดามัน แทนชุดเดิมที่ครบวงรอบ 2 ปี บำรุงรักษา กำหนดแล้วเสร็จ 29 พ.ย.นี้ ชี้เป็นอุปกรณ์เตือนภัยมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังเกิดคลื่นยักษ์ถล่ม 26 ธ.ค.47 ชายฝั่ง 6 จังหวัด หลายชีวิตดับสูญ


วันนี้ (16 พ.ย.) นายเชษฐา โมลิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานพิธีปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียชุดใหม่ทดแทนทุ่นเดิมที่ครบวงรอบการบำรุงรักษา โดยมีว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธี ณ ท่าเทียบเรือน้ำลึก ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายเชษฐา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวจนเกิดเหตุการณ์คลื่นสึนามิ ทำลายบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียและ 6 จังหวัดฝั่งอันดามันของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบ มีทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย ศรีลังกา และอินเดีย และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศไทยได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ในการแจ้งเตือนภัยสึนามิ ร่วมกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา และได้รับมอบทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ จากหน่วยงานดังกล่าว เมื่อเดือนธันวาคม 2549 โดยประกอบด้วย ทุ่นลอยพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล ซึ่งมีการติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร ต่อมารัฐบาลไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตั้งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 2 ในทะเลอันดามัน เมื่อเดือนมกราคม 2560 ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 290 กิโลเมตร ซึ่งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 จุด มีการบำรุงรักษาตามมาตรฐานผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในทุก 2 ปี เพื่อให้ตรวจวัดคลื่นสึนามิ ให้มีความพร้อมใช้งานและมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลา


นายเชษฐา กล่าวว่า การวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิชุดใหม่นี้ มีกำหนดเดินทางออกจากฝั่งในวันนี้ และจะใช้เวลาดำเนินการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ดังนั้น ความปลอดภัยและระบบเตือนภัยจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง รัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์ คาดการณ์คลื่นสึนามิ และระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จึงถือว่าการวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ ในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย เป็นกลไกในการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกกับข่าวลือ และรับข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐ จะได้เตรียมความพร้อมในการอพยพทันท่วงที สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต