กรุงเทพฯ 11 ต.ค. ดีอีเอส เชื่ออุตสาหกรรมดิจิทัลจะช่วยช่วยสร้างเศรษฐกิจ ชี้มีแต้มต่อเครือข่าย 5G รองรับ เร่งเพิ่มทักษะนักศึกษาจบใหม่ สร้างงาน สร้างโอกาสภาคธุรกิจ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ โดยเฉพาะด้านดิจิทัล ใช้ทักษะด้านดิจิทัลมาช่วย จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นระบบการสร้างคนเพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ทำในสิ่งที่สนใจให้เกิดประโยชน์จะเป็นแนวทางที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้
“เด็กรุ่นใหม่ไม่อยากเป็นหมอ ไม่อยากเป็นวิศวะแล้ว แต่อยากเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเกิดโควิด-19 ทั่วโลก ระบบการค้าขายออนไลน์ ระบบการโอนเงิน ระบบการสร้างคนต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะจบด้านอะไร จบบัญชี ก็สามารถใช้ทักษะดิจิทัลมาใช้ได้ ภาคอุตสาหกรรม วันนี้ทุกอย่างเป็น 5G ทั้งหมด อนาคตจะมารองรับระบบหุ่นยนต์ ถ้าเด็กของเราคิดแค่นี้ จบแค่นี้ ก็ไปไหนไม่ได้ วันนี้จึงต้องสร้างเด็กขึ้นมา”
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงดิจิทัลฯ และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ทำหลักสูตรเสริมทักษะการเรียนรู้ผ่านออนไลน์เพิ่มทักษะให้นักศึกษาจบใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจ้างนักศึกษาจบใหม่เรียนเพิ่มทักษะด้านดิจิทัล เสริมเพิ่มเติมจากทักษะที่มีอยู่แล้ว เมื่ออบรมแล้วเสร็จจะสามารถพัฒนาตัวเองและสร้างงานใหม่ได้ รองรับตลาดอุตสาหกรรมดิจิทัลได้ต่อเนื่อง การเตรียมความพร้อมของคนรุ่นใหม่และภาคธุรกิจ หลังจากเตรียมพร้อมเปิดประเทศ ด้วยฐานการรองรับใหม่ๆ โดยใช้ทักษะดิจิทัล มองว่าไทยหลังเปิดประเทศ นี่คือโลกใบใหม่ของน้องๆ รัฐบาลตั้งใจเตรียมวิธีการใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ การทำงานให้คนรุ่นใหม่ ทั้งแบบไฮบริดออนไลน์ ออฟไลน์ นี่คือโอกาสที่ประเทศไทยจะเดินหน้า ในขณะที่ประเทศอื่น ยังต้องแก้ไขปัญหาโควิดอยู่ เพราะฉะนั้นการจ้างงานการอบรมฝึกทักษะด้านดิจิทัลให้เด็กเป็นสิ่งที่สำคัญ
“ไม่มีอุตสาหกรรมไหนในโลกที่สามารถ ตั้งฐานการผลิตได้อย่างรวดเร็ว การจะตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี แต่อุตสาหกรรมดิจิทัล ในเงินลงทุนใกล้เคียงกัน ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีครึ่งเท่านั้น ใช้วงเงินและได้เม็ดเงินเข้าประเทศใกล้เคียงกัน สามารถขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานคนไทย ฝึกทักษะอบรมนิดหน่อยก็สามารถทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจได้ และในอนาคตส่วนใหญ่จะใช้อุตสาหกรรม ดิจิทัลมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งหมด และฐานข้อมูลจากนี้ไป บริษัทไหนมีฐานข้อมูลลูกค้าดีที่สุด เก็บข้อมูลได้ดีที่สุด ใครเข้าใจการบริหารข้อมูลดีที่สุด คือ ผู้ชนะนั่นคือรัฐบาลชุดนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องข้อมูลมากที่สุด” -นายพุทธิพงษ์กล่าว-สำนักข่าวไทย.