สนามหลวง 26 พ.ย.-ประชาชนจำนวนมาก เข้ากราบพระบรมศพต่อเนื่อง รวมถึง ‘ลุงชง’ ซึ่งป่วยเป็นโรคเท้าแสนปม ที่ได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยความปลายปลื้มในวันนี้
ในช่วงบ่ายแม้ว่าจะมีสภาพอากาศร้อนจัด แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากจากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อเข้าคิวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น นายชิติ เจริญรัตนประภา หรือลุงชง อายุ 60 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคเท้าแสนปม ซึ่งได้เดินทางมาจาก อ.เบตง จ.ยะลา มาถึงสนามหลวง เพื่อเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
ลุงชง กล่าวว่า ออกเดินทางมาจากเบตง ตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ย.มาถึงสนามหลวงเมื่อเวลา 04.30 น.โดยลุงชงยืนยันที่จะเข้าคิวเพื่อรอถวายบังคมกราบพระบรมศพ เช่นเดียวกับประชาชนคนอื่นๆแม้จะเป็นผู้ป่วย โดยลุงชงกล่าวแสดงความดีใจมากที่ได้มีโอกาสเข้ามากราบพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ และคงหาโอกาสแบบนี้ ในชีวิตนี้ไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา หลังจากที่รู้ข่าวการสวรรคต รู้สึกเสียใจมาก เพราะในหลวงรัชกาลที่9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงงานเพื่อประชาชนมาตลอด มีพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อคนไทย และสามารถคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองด้วยพระบารมี โดยหลังจากเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพแล้ว จะเดินทางไปทัศนศึกษาที่โครงการตามแนวพระราชดำริ ชั่งหัวมันที่จ.เพชรบุรี ด้วย
นอกจากนี้ยังมีภาพความประทับใจ นายคลุนท์ โคลเซ อายุ 67 ปีชาว เยอรมัน พร้อมด้วยภริยา ชาวไทย ซึ่งร่วมเป็นจิตอาสาในพื้นที่ท้องสนามหลวง ได้มาเป่าทรัมเปต บทเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อขับกล่อมประชาชนที่เดินทางมารอเข้ากราบพระบรมศพ โดยนายคลุนท์ กล่าวว่า ได้อยู่ อาศัยในประเทศไทยมาแล้ว 9 ปีและแม้จะเป็นคนต่างชาติ แต่ก็ซาบซึ้งถึงพระราชกรณียกิจ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำเพื่อคนไทยมากมาย ในวันนี้จึงมีความรู้สึกร่วมกับคนไทยที่จะแสดงความรัก และความอาลัยที่มีต่อพระองค์ หลังการเสด็จสวรรคต
นอกจากนี้หลายหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ยังได้ร่วมเป็นจิตอาสานำน้ำเครื่องดื่ม ของว่างมาแจกจ่าย ดูแลประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เช่น บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ที่วันนี้นางเพชรพริ้ง สารสิน ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร การบินไทย พร้อมด้วยพนักงาน และลูกเรือได้เดินทางมาร่วมเป็นจิตอาสา หน้าซุ้มของการบินไทย บริเวณประตูวิเศษไชยศรี ด้วย
ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง และหน้าพระบรมมหาราชวัง พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมามีประชาชนที่ผ่านจุดคัดกรอง 110,695 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว 18,258 คน และเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ รวม 38,996 คน รวมทั้งการตรวจค้นพบข้อต้องห้าม 133 ชิ้น พร้อมกันนี้ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ท้องสนามหลวงให้มีการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และคอยความสะดวกอย่างเต็มที่ เนื่องจากพบว่าประชาชนที่เดินทางมานั้นใช้ระยะเวลาเพื่อเขากราบถวายบังคมพระบรมศพกว่า 30 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนั้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจ.-สำนักข่าวไทย
