กฝผ.จับมือสวทช.พัฒนาระบบเก็บพลังงานไฟฟ้า

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. สวทช.จับมือ กฟผ. ชูความสําเร็จ ระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ สู่ความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าตอบโจทย์ สภาวะฉุกเฉิน 


นางเกศวรงค์ หงส์ลดารมภ์ ผู้ช่วยผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. พร้อมและสนับสนุนให้มีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานด้าน คุณภาพของประเทศ หรือNational Quality Infrastructure หรือ NQI ซึ่งปัจจุบันสวทช.ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ด้านนี้เป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาทครอบคลุมหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยหนึ่งในนั้นคือ ระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ หรือ Energy Storage ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไว้วางใจให้ สวทช.ร่วมดําเนินการ ซึ่งเป็นการใช้ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่อัจฉริยะ มาบริหารจัดการพลังงานจากแหล่งผลิตและการใช้งาน โดยที่การใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม หรือโซล่าร์เซลล์นั้น เป็นที่ทราบกันว่ามีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแสงแดด ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน การใช้ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน (Load) การที่จะทําให้แหล่งผลิต (Source) และLoad มีความสัมพันธ์กันนั้นเป็นเรื่องลําบาก ดังนั้นในโครงการนี้จึงใช้ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่อัจฉริยะในการบริหารจัดการให้มีความสัมพันธ์กัน โดยอาศัยองค์ความรู้และศักยภาพของศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบ และวิศวกรรมหรือ DECC ในการออกแบบนําแบตเตอรี่ในระดับเซลล์มาประกอบเป็น แบตเตอรี่ระดับ โมดูลแพ็ค เพื่อนําไปใช้งานเฉพาะแบบทางด้านกักเก็บพลังงานทดแทนและปัจจุบันใช้งานจริงโดยมี Proven sites อยู่ที่ลําตะคองจ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นระบบกักเก็บจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ทับสะแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์จึงมีความสําคัญและนับเป็นก้าวสําคัญในการการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมการใช้พลังงานสีเขียวในประเทศ ให้มีพลังงานไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่นช่วงวิกฤต โควิด-19 ทั้งนี้ปัจจุบันระบบกักเก็บพลังงานดังกล่าวได้รับการรับรองให้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายอัมพร โพธิ์ใย ผู้อํานวยการศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ (Cell battery) สําหรับยานยนต์ไฟฟ้าและแหล่งกักเก็บพลังงานในประเทศเนื่องจากไทยไม่มีวัตถุดิบในการทําขั้วแบตเตอรี่เหมือนกับประเทศจีนและประเทศในอเมริกากลาง ดังนั้นอุตสาหกรรมในประเทศจึงมีการซื้อแบตเตอรี่ระดับเซลล์มาจาก ต่างประเทศแล้วนํามาประกอบกันเป็น แบตเตอรี่โมดูล (Battery module) และแบตเตอรี่แพ็ค (Battery pack) และนําไปประยุกต์ใช้งานตามความต้องการการใช้พลังงานในแต่ละแบบอย่างไรก็ตามหากจะซื้อ แบตเตอรี่ในระดับโมดูล แล้วมาประกอบเป็นแบตเตอรี่แพ็คนั้น มักจะประสบปัญหาการนําไปใช้งาน เนื่องจาก แบตเตอรี่ในระดับโมดูลนั้น ผู้ผลิตมักจะจํากัดจํานวนเซลล์เป็นจํานวนเฉพาะมาด้วย และกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะขึ้นกับจํานวนเซลล์ที่นํามาต่อกัน หากเราต้องการออกแบบแบตเตอรี่ ให้มีแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้งานเฉพาะ จะไม่สามารถทําได้ เนื่องจากบริษัทที่ขายแบตเตอรี่โมดูลจะไม่ทําตามขนาดของเราเป็นการเฉพาะ หรือหากทําได้ก็ต้องใช้วงจร อิเล็กทรอนิกส์ในการแปลงแรงดันและกระแสไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งวิธีการนี้จะทําให้ราคาของแบตเตอรี่ โมดูลสูงขึ้น ทําให้มีน้ําหนักเพิ่ม แต่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายตามมาได้อีกเช่น การติดไฟ การเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ในเวลาสั้น ฯลฯ


นายอัมพร กล่าวว่า ความเชี่ยวชาญและความสามารถในการออกแบบแบตเตอรี่ระดับโมดูล แพ็คของ DECCในการพัฒนาและออกแบบแบตเตอรี่ระดับโมดูล ต้องอาศัยระบบการบริหารจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ (Battery Management System: BMS) ในระดับเซลล์ที่ถูกนํามาต่อร่วมกันจํานวนมาก โดยต้องบริหารจัดการ ทั้งการประจุไฟฟ้า (Charge) การคายประจุไฟฟ้า (Discharge) และการควบคุมทั้งอุณหภูมิ แรงดันไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าทั้งนี้เพื่อให้ประสิทธิภาพการทํางานออกมาตามที่ออกแบบ และมีความปลอดภัยสามารถนําไปใช้ งานได้ในการบริหารจัดการทํางานของแบตเตอรี่ (Battery Management System, BMS) จะมีวงจร อิเล็กทรอนิกส์และเซ็นเซอร์(Sensors) เช่นระบบควบคุมด้านความร้อน (Thermal Management System) กระแสไฟฟ้า และแรงดันไฟฟ้าประกอบกัน จากนั้นการนําแบตเตอรี่หลายๆโมดูลไปต่อรวมกันกลายเป็นแบตเตอรี่ แพ็ค ก็จะมีวงจรควบคุมตัวหลัก (Master BMS) คอยบริหารจัดการแบตเตอรี่ในระดับโมดูลอีกที จะเห็นได้ว่าหาก สามารถออกแบบแบตเตอรี่ในระดับโมดูลได้ก็จะเป็นการง่ายที่จะนําไปต่อขยายกันกลายเป็นแบตเตอรี่ ในระดับแพ็คได้ และทําให้สามารถออกแบบได้ตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานแต่ละประเภทได้ทั้งนี้การออกแบบแบตเตอรี่โดยมีวงจรควบคุม BMS เป็นเรื่องใหม่สําหรับประเทศไทย ต้องใช้ความรู้ขั้นสูง แต่ก็มีความสําคัญอย่างมาก การนําเซลล์ที่ผลิตจากแหล่งอื่นมารวมกันแบบอนุกรมและแบบขนานเป็นแบตเตอรี่ โมดูล (Battery module) ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติทางไฟฟ้าในแต่ละเซลล์และนํามาบริหารจัดการเพื่อให้ได้ พลังงานทั้งการประจุและการคายประจุตามที่ต้องการ ทั้งนี้หากอุตสาหกรรมหรือนักออกแบบในประเทศสามารถพัฒนาวิธีการควบคุมแบตเตอรี่ได้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมเพื่อการนําแบตเตอรี่ไปใช้ขึ้นอีก มากมาย เช่น ใช้ในเครื่องมือแพทย์ การบิน การทหาร การขนส่ง ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสร้างความมั่นคงด้าน พลังงานของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 025646310 -11 หรือwww.decc.or.th-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย