“พล.อ.ประยุทธ์” ชื่นชมนิทรรศการ พช.น้อมนำแนวทางพระราชดำริพัฒนาชุมชนยั่งยืน

สำนักข่าวไทย 28 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีชื่นชมนิทรรศการกรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชดำริ “ปลูกพืชผักสวนครัว” และ “โคก หนอง นา” เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและช่วยชุมชนพึ่งตนเองได้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมหนุนสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดินของสภาสตรีแห่งชาติฯ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการกิจกรรมจิตอาสา ของกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใต้ร่มพระบารมี เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้” โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกรมการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม ณ บริเวณท้องสนามหลวง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมการจัดนิทรรศการดังกล่าวของกรมการพัฒนาชุมชนทั้งในส่วนของแผนปฏิบัติการ และการสร้างความมั่นคงด้านอาหารถือว่าเป็นสิ่งที่ดี นอกจากการสร้างวัฒนธรรมการปลูกผักสวนครัวแล้วยังช่วยประหยัดรายจ่ายครัวเรือน และได้พืชผักปลอดภัยใช้ในการบริโภค นอกจากนี้ยังทำให้บ้านเรือนสวยงาม มีสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการปลูกผักสวนครัว ทั้งหน้าบ้านหลังบ้านควบคู่กับไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับประชาชนจิตอาสาจากจังหวัดสมุทรสงครามเพาะเมล็ดทานตะวันต้นอ่อนทานตะวัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการการนำเอาหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โดยได้พูดคุยกับจิตอาสาที่ได้มาร่วมทำความดีด้วยหัวใจด้วยการเอามื้อสามัคคีที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดลำปาง อุบลราชธานี นครนายก และนครศรีธรรมราช ผ่านระบบ Microsoft zoom ให้สามารถปรับปรุงพื้นที่ทำกินของประชาชนให้สามารถ จากเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้ พร้อมเยี่ยมชมการจัดทำฝาย คลองใส้ไก่ ทำหลุมขนมครก ทำหนอง เพื่อจัดเก็บน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งประชาชนต้องเสียสละที่ดิน สำหรับทำแรงน้ำในพื้นที่ พร้อมขอบคุณจิตอาสาทั้ง 4 ภาค กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ดำเนินงานการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่าการนำผักตบชวามาทำใยเพื่อทอผ้า ทำจาน และสลับกับการทำกันกระแทก ขอให้ทุกบ้านช่วยกันกำจัดผักตบชวาที่อยู่ในพื้นที่

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมซุ้มของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำเสนอโดยดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายกรมการพัฒนาชุนจัดทำโครงการ “ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยประธานสภาสตรีฯได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีแทนสตรีไทยที่รัฐบาลได้มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 เชิญชวนให้คนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาถึงปัจจุบันสามารถสร้างรายได้กลับสู่ครอบครัวในชุมชนได้มากกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาอยู่ที่บูธนิทรรศการของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยด้วยความสนใจ และได้ร่วมถ่ายรูปหมู่กับผู้มาให้การต้อนรับ โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวให้แก่นายกรัฐมนตรีพร้อมฝากให้ภริยาท่านนายกรัฐมนตรีด้ว


อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากถึงทุกจังหวัดให้จัดหาพื้นที่ซึ่งจะต้องขุดน้ำ พื้นที่ส่วนไหนมีน้ำ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต้องพยายามหาวิธีบริหารจัดการพื้นที่โอบอุ้มน้ำ ให้มีการเก็บสะสมระหว่างทางให้ได้มากที่สุด ทั้งแก้มลิง การตุนน้ำ หรือหลุมขนมครก ให้อุ่นใจว่าจะมีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค มากพอใช้ทำการเกษตร และไปดันน้ำเค็มด้านล่างลงสู่ทะเล ถ้ามีน้ำมากก็ระบายออก ถ้าน้ำน้อยก็ต้องกักเอาไว้ บริหารจัดการแหล่งน้ำธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ช่วยกันคนละไม้คนละมือ วันนี้เราก็มีจิตอาสาจำนวนมากพร้อมช่วยกันออกแรง ทำแหล่งเก็บน้ำในพื้นที่ ถ้ารอรัฐบาลก็อาจจะช้าเกินไป ถ้าทุกคนช่วยกันต่อเนื่องก็จะมีน้ำกินน้ำใช้ รวมทั้งพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่ขณะนี้มีทุกจังหวัด ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันครั้งนี้
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 โดยได้จัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้”

ทั้งนี้ มีกิจกรรมสาธิต กิจกรรมส่งเสริมความรู้ การส่งเสริมทักษะอาชีพตามภารกิจที่เกี่ยวข้องในประเด็น “การบริหารจัดการชุมชน” ซึ่งน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้และการเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันระดับครัวเรือน ชุมชนในสถานการณ์วิกฤต ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในชุมชนใช้วิถีชีวิตในการสืบสาน รักษา ต่อยอด หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะส่งผลให้คนในสังคมมีความสุขและเข้มแข็ง ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยมีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวว่า นิทรรศการที่ได้จัดแสดงครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต กิจกรรมสาธิตการปลูกผักสวนครัว ส่วนที่ 2 การสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และรายได้ จัดฉายวีดิทัศน์และนิทรรศการการน้อมนำแนวทางโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาสู่การปฏิบัติ การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และส่วนที่ 3 การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาด ตามวิถีแบบใหม่ (New Normal) จัดแสดงภูมิปัญญามาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ การแปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาดตามวิถีใหม่ New Normal


สำหรับกิจกรรมดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ทำการสื่อสารผ่านระบบ Zoom กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ บริเวณ โคก หนอง นา โมเดล ภาคละ 1 จุด เพื่อได้เห็นภาพบรรยากาศกิจกรรมเอามื้อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และบรรยากาศการเรียนรู้กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล จากพื้นที่ต้นแบบในสถานจริงทุกภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคเหนือ ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง ปลูกข้าวพันธุ์ล้านนา โดยการหยอดหลุม ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ซ่อมหนองน้ำ ปล่อยปลา ภาคใต้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ห่มดิน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปล่อยปลา ภาคกลาง ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกพืชบนคันนาทองคำ ปลูกต้นไม้ ห่มดิน และภาคอีสาน ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี “ทีมครูพาทำ” ทำกำแพงแฝกเสริมไผ่ ปลูกหญ้าแฝก 3 ชั้น ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกป่า 5 ระดับ ห่มดิน ทำแปลงผักปรับปรุงดินด้วยถ่านไบโอซาร์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัสชีวิตวิถีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม กับกิจกรรมสาธิต ให้ความรู้การปลูกผักสวนครัว, โคก หนอง นา โมเดล การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 3 รอบเวลา ดังนี้ รอบเช้า ตั้งแต่เวลา 10.00 – 13.00 น. รอบบ่าย ตั้งแต่เวลา 13.00 – 14.00 น. และรอบเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00 – 18.00 น. และร่วมเติมความสุขไปกับกิจกรรม “ปันสุข” ทุกคนที่เข้าชมนิทรรศการ เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ จะได้รับสิ่งของแจกฟรี เช่น เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว อาหารแปรรูป หน้ากากอนามัยผ้า เพียง Scan QR Code Page ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับ พช. ประเมินความพึงพอใจ Check Out ไทยชนะ เสร็จแล้วรับของได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย