“พล.อ.ประยุทธ์” ชื่นชมนิทรรศการ พช.น้อมนำแนวทางพระราชดำริพัฒนาชุมชนยั่งยืน

สำนักข่าวไทย 28 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีชื่นชมนิทรรศการกรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชดำริ “ปลูกพืชผักสวนครัว” และ “โคก หนอง นา” เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและช่วยชุมชนพึ่งตนเองได้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมหนุนสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดินของสภาสตรีแห่งชาติฯ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการกิจกรรมจิตอาสา ของกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใต้ร่มพระบารมี เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้” โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกรมการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม ณ บริเวณท้องสนามหลวง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมการจัดนิทรรศการดังกล่าวของกรมการพัฒนาชุมชนทั้งในส่วนของแผนปฏิบัติการ และการสร้างความมั่นคงด้านอาหารถือว่าเป็นสิ่งที่ดี นอกจากการสร้างวัฒนธรรมการปลูกผักสวนครัวแล้วยังช่วยประหยัดรายจ่ายครัวเรือน และได้พืชผักปลอดภัยใช้ในการบริโภค นอกจากนี้ยังทำให้บ้านเรือนสวยงาม มีสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการปลูกผักสวนครัว ทั้งหน้าบ้านหลังบ้านควบคู่กับไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับประชาชนจิตอาสาจากจังหวัดสมุทรสงครามเพาะเมล็ดทานตะวันต้นอ่อนทานตะวัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการการนำเอาหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โดยได้พูดคุยกับจิตอาสาที่ได้มาร่วมทำความดีด้วยหัวใจด้วยการเอามื้อสามัคคีที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดลำปาง อุบลราชธานี นครนายก และนครศรีธรรมราช ผ่านระบบ Microsoft zoom ให้สามารถปรับปรุงพื้นที่ทำกินของประชาชนให้สามารถ จากเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้ พร้อมเยี่ยมชมการจัดทำฝาย คลองใส้ไก่ ทำหลุมขนมครก ทำหนอง เพื่อจัดเก็บน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งประชาชนต้องเสียสละที่ดิน สำหรับทำแรงน้ำในพื้นที่ พร้อมขอบคุณจิตอาสาทั้ง 4 ภาค กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ดำเนินงานการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่าการนำผักตบชวามาทำใยเพื่อทอผ้า ทำจาน และสลับกับการทำกันกระแทก ขอให้ทุกบ้านช่วยกันกำจัดผักตบชวาที่อยู่ในพื้นที่

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมซุ้มของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำเสนอโดยดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายกรมการพัฒนาชุนจัดทำโครงการ “ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยประธานสภาสตรีฯได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีแทนสตรีไทยที่รัฐบาลได้มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 เชิญชวนให้คนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาถึงปัจจุบันสามารถสร้างรายได้กลับสู่ครอบครัวในชุมชนได้มากกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาอยู่ที่บูธนิทรรศการของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยด้วยความสนใจ และได้ร่วมถ่ายรูปหมู่กับผู้มาให้การต้อนรับ โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวให้แก่นายกรัฐมนตรีพร้อมฝากให้ภริยาท่านนายกรัฐมนตรีด้ว


อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากถึงทุกจังหวัดให้จัดหาพื้นที่ซึ่งจะต้องขุดน้ำ พื้นที่ส่วนไหนมีน้ำ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต้องพยายามหาวิธีบริหารจัดการพื้นที่โอบอุ้มน้ำ ให้มีการเก็บสะสมระหว่างทางให้ได้มากที่สุด ทั้งแก้มลิง การตุนน้ำ หรือหลุมขนมครก ให้อุ่นใจว่าจะมีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค มากพอใช้ทำการเกษตร และไปดันน้ำเค็มด้านล่างลงสู่ทะเล ถ้ามีน้ำมากก็ระบายออก ถ้าน้ำน้อยก็ต้องกักเอาไว้ บริหารจัดการแหล่งน้ำธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ช่วยกันคนละไม้คนละมือ วันนี้เราก็มีจิตอาสาจำนวนมากพร้อมช่วยกันออกแรง ทำแหล่งเก็บน้ำในพื้นที่ ถ้ารอรัฐบาลก็อาจจะช้าเกินไป ถ้าทุกคนช่วยกันต่อเนื่องก็จะมีน้ำกินน้ำใช้ รวมทั้งพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่ขณะนี้มีทุกจังหวัด ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันครั้งนี้
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 โดยได้จัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้”

ทั้งนี้ มีกิจกรรมสาธิต กิจกรรมส่งเสริมความรู้ การส่งเสริมทักษะอาชีพตามภารกิจที่เกี่ยวข้องในประเด็น “การบริหารจัดการชุมชน” ซึ่งน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้และการเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันระดับครัวเรือน ชุมชนในสถานการณ์วิกฤต ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในชุมชนใช้วิถีชีวิตในการสืบสาน รักษา ต่อยอด หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะส่งผลให้คนในสังคมมีความสุขและเข้มแข็ง ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยมีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวว่า นิทรรศการที่ได้จัดแสดงครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต กิจกรรมสาธิตการปลูกผักสวนครัว ส่วนที่ 2 การสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และรายได้ จัดฉายวีดิทัศน์และนิทรรศการการน้อมนำแนวทางโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาสู่การปฏิบัติ การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และส่วนที่ 3 การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาด ตามวิถีแบบใหม่ (New Normal) จัดแสดงภูมิปัญญามาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ การแปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาดตามวิถีใหม่ New Normal


สำหรับกิจกรรมดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ทำการสื่อสารผ่านระบบ Zoom กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ บริเวณ โคก หนอง นา โมเดล ภาคละ 1 จุด เพื่อได้เห็นภาพบรรยากาศกิจกรรมเอามื้อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และบรรยากาศการเรียนรู้กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล จากพื้นที่ต้นแบบในสถานจริงทุกภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคเหนือ ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง ปลูกข้าวพันธุ์ล้านนา โดยการหยอดหลุม ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ซ่อมหนองน้ำ ปล่อยปลา ภาคใต้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ห่มดิน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปล่อยปลา ภาคกลาง ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกพืชบนคันนาทองคำ ปลูกต้นไม้ ห่มดิน และภาคอีสาน ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี “ทีมครูพาทำ” ทำกำแพงแฝกเสริมไผ่ ปลูกหญ้าแฝก 3 ชั้น ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกป่า 5 ระดับ ห่มดิน ทำแปลงผักปรับปรุงดินด้วยถ่านไบโอซาร์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัสชีวิตวิถีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม กับกิจกรรมสาธิต ให้ความรู้การปลูกผักสวนครัว, โคก หนอง นา โมเดล การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 3 รอบเวลา ดังนี้ รอบเช้า ตั้งแต่เวลา 10.00 – 13.00 น. รอบบ่าย ตั้งแต่เวลา 13.00 – 14.00 น. และรอบเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00 – 18.00 น. และร่วมเติมความสุขไปกับกิจกรรม “ปันสุข” ทุกคนที่เข้าชมนิทรรศการ เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ จะได้รับสิ่งของแจกฟรี เช่น เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว อาหารแปรรูป หน้ากากอนามัยผ้า เพียง Scan QR Code Page ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับ พช. ประเมินความพึงพอใจ Check Out ไทยชนะ เสร็จแล้วรับของได้ทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย