กทม.21 ก.ค.- ผู้ประกาศข่าวช่อง 7 HD ร้องขอความเป็นธรรมกรณีนำเสนอข่าวแล้วถูกฟ้องหมิ่นฯ ยันบริสุทธิ์ใจการทำหน้าที่สื่อมวลชน
นายณัชฐพงศ์ มูฮำหมัด, นายเจษฎา อุปนิ และนางสาวศจี วงศ์อำไพ ผู้ประกาศข่าวช่อง 7 เอชดี เข้าร้องขอความเป็นธรรม และยื่นหนังสือถึงพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีถูก พันตำรวจเอกพรเทพ จันทร์เหลือง ประธานชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณี เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา นายอนุวัต เฟื่องทองแดง, นายณัชฐพงศ์, นายเจษฎา และนางสาวศจี ร่วมกันจัดรายการสนามข่าว 7 สี แล้วออกอากาศข่าวประชาสัมพันธ์ เตือนประชาชน ผู้ประกอบการ เรื่อง ประกาศของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่าอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างขายบัตรคอนเสิร์ตของ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายบัตรดังกล่าว โดยเป็นการดำเนินการตามหน้าที่ของสื่อนำเสนอข่าวว่ามีการแอบอ้างขายบัตรคอนเสิร์ตของ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ โดยผู้สื่อข่าวช่อง 7 เอชดี ได้ข้อมูลหลักฐานจากพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยว่า จากการนำเสนอข่าวดังกล่าวไม่ได้กล่าวหาเอ่ยชื่อหรือเจาะจงว่าบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดเป็นผู้หลอกลวง แต่ปรากฏว่าเมื่อข่าวได้นำเสนอเผยแพร่ออกไป กลับถูกประธานชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ที่ สภ.หาดเจ้าสำราญ
ที่มายื่นเรื่องร้องเรียนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็เพราะว่า พนักงานสอบสวน สภ.หาดเจ้าสำราญ จะออกหมายเรียกผู้ประกาศข่าวทั้ง 4 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา โดยที่ยังไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่ จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.หาดเจ้าสำราญ เจ้าของคดี ที่ออกหมายเรียกผู้กล่าวหาเป็นผู้ต้องหา โดยยังไม่มีการสอบสวนรวบรวมพยานอต่อย่างใดและอยากให้ตรวจสอบชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติว่ามีเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ การจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตมีการทำอย่างถูกต้อง และเสียภาษีตามกฎหมายหรือไม่
นายณัชฐพงศ์ มูฮำหมัด หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า จะนำเสนอข้อเท็จจริงต่อไป แต่อยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง โดยจะต่อสู้คดีนี้จนถึงที่สุด เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจการทำหน้าที่สื่อมวลชน.-สำนักข่าวไทย