ราชบุรี 20 ก.ค. – สาววัย 18 ปี รับไม่ได้ เจ้าหน้าที่สายด่วน 1669 เลียนเสียงตัดสาย ล้อเล่นกับชีวิตคน จนสุดท้ายทำให้พ่อต้องตาย
กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pronrawin Ongpisut ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนว่า ได้โทรไปยังสายด่วน 1669 เพื่อให้มารับตัวคุณพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการหายใจไม่ออก จุกอยู่ที่คอ หลังโทรติดต่อไปแล้ว พ่อมีอาการแย่ลง จึงพยายามติดต่ออีกครั้ง แต่ไม่ติด จนครั้งที่ 3 มีผู้ชายรับสายและพูดว่า ไม่ได้ยินครับ ไม่ได้ยินครับ พร้อมกับเลียนเสียงตัดสาย ตู๊ด ตู๊ด และวางสายไป
หลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียไปแล้ว มีคนเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจกันล้นหลาม และมีผู้แชร์ต่อไปอีกเป็นจำนวนมาก ทางผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังวัดดอนตะโก ซึ่ง น.ส.พรรวินท์ องค์พิสุทธิ์ (น้องมีน) อายุ 18 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก ผู้เป็นลูกสาว และนางพรสมบูรณ์ องค์พิสุทธิ์ อายุ 45 ปี พร้อมครอบครัว ได้นำร่างของนายพิสิษฐ์ องค์พิสุทธิ์ อายุ 53 ปี พ่อของน้องมีน มาไว้ที่วัด ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงเรื่องราวความเป็นมาว่าเกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งน้องมีนได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างที่โพสต์โซเชียล
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม คุณพ่อเกิดอาการหายใจไม่ออก จุกอยู่ที่คอ และบอกว่าไม่ไหวแล้ว ประมาณ 07.10 น. และหลังจากนั้นก็โทร. 1669 เวลา 07.13 น. บอกให้รีบมาด่วน พ่อหายใจไม่ออก ให้มาด่วนๆ เลยนะคะ จึงบอกที่อยู่ไปและรอหน้าบ้าน ผ่านไป 4 นาที 07.17 น. พ่อก็พูดว่าไม่ไหวแล้วๆ จึงโทรสายที่ 2 มีสัญญาณ แต่ไม่มีคนรับสาย จึงกดโทรสายที่ 3 เวลา 07.18 น. มีคนรับสาย คือตอนนั้นพ่อพูดว่าไม่ไหวแล้วๆ ทรุดแล้ว ก็เลยโทรสายที่ 3 ตนร้องไห้และพูดว่า ทำไมนานจัง พี่ปลายสายที่เป็นผู้ชายก็บอกว่า ไม่ได้ยินครับๆ เลียนเสียงตัดสาย ตู๊ดๆๆ และวางสายไปเลย หลังจากนั้นหนูก็สติแตก กองไปกับพื้น รถมาถึงประมาณ 07.20 น. หนูไม่สบายใจเลย ไม่ใช่การที่รถมาช้า เพราะไม่ได้ช้ามาก แต่ไม่สบายใจเรื่องการสื่อสารที่พี่เขาคุยกับหนู เพราะว่าวุฒิภาวะน่าจะมี ความคิดที่ว่าน่าจะใช้คำพูดที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่เอาเรื่องชีวิตคนอื่นมาเล่นอะไรแบบนี้ หนูมีความคิดว่า ถ้าคุณพ่อปลอดภัยก็จะปล่อยไป แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อหนูเสียชีวิตแล้ว จึงคิดว่าปล่อยไปไม่ได้ เพราะไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดกับใครอีก
ด้าน นพ.พิเชียร วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นภายในองค์กรนั้น ทางโรงพยาบาลรับทราบแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นโดยตัวบุคคล ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการหาตัวคนกระทำดังกล่าวต่อไป และได้มีการพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นงานศพ จะมีการเข้าพูดคุยอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย