ศธ.เปิดศูนย์คุ้มครอง-ช่วยเหลือ นักเรียนถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ศธ.20 ก.ย.-รมว.ศธ.เดินหน้าเปิด “ศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ” รับเรื่องร้องเรียน การคุกคาม ล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็วกว่าเดิม เผยตั้งแต่เปิดศูนย์ต้นปี 63 มีเรื่องร้องเรียนแล้ว 16 คดี 



นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.) ณ บริเวณชั้น 1 อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 เพื่อคุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยข้าราชการครู บุคคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียนหรือนักศึกษาด้วยกันเอง พร้อมกับมอบนโยบายขับเคลื่อนการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาฯ ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี 5 ผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ได้แก่ องค์กรยูนิเซฟแห่งประเทศไทย มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิศานติวัฒนธรรมและองค์กรทำดี ได้มอบข้อเสนอเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ คณะกรรมการ ศคพ.ด้วย


รมว.ศธ กล่าวว่า ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศมีอยู่ในทุกสถานที่กระทรวง ศึกษาธิการ ตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา เพื่อหวังยุติให้กรณีล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนให้ลดน้อยลงให้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้เพราะโรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ต้องให้ความมั่นใจกับผู้ปกครอง เรื่องนี้ ศธ.  จะไม่ละเว้น ที่ผ่านมายอมรับ ศธ.ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้เต็มที่  เมื่อตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา จะทำให้การจัดการปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว รอบคอบและเด็ดขาด มากขึ้น ที่ผ่านมายอมรับผู้ล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน แม้จะมีส่วนน้อย ยังคงวนเวียนอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันต้องไม่เกิดขึ้น 

ปัจจุบันหากมีการร้องเรียนต้องพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพชั่วคราว หรือถอนใบประกอบวิชาชีพไว้ก่อนเพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจของกระทรวงศึกษาธิการในการดำเนินคดีนี้อย่างจริงจัง เหตุการณ์แบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นในโรงเรียนอีกต่อไป ตนพร้อมนำบุคคลากรทางการศึกษาต่อสู้กับเรื่องนี้อย่างเต็มที่  แม้กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่อยากให้นำอดีตมาแก้ไขให้ดีขึ้น ปัจุบันเมื่อเกิดเรื่อง ศธ.สามารถใช้เวลา ในการกล่าวโทษไม่ถึง 1 สัปดาห์สามารถกล่าวโทษตามกฏหมาย ตั้งแต่ ตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 63 มีการกล่าวโทษผู้กระทำผิด 16 คดี ถอนใบประกอบวิชาชีพ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการยุติธรรมจะเสร็จสิ้น นำกฏของกระทรวงมาใช้อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ หากพบว่าหน่วยงานทางการศึกษามีข้อร้องเรียนเรื่องล่วงละเมิดทางเพศหรือมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะในวงกว้าง ผู้มีอำนาจหรือเขตพื้นที่การศึกษานั้น ต้องสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาย้ายออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราวและตั้งคณะกรรมการสอบทันที หากผลสอบพบว่าข้อร้องเรียนนั้นมีมูล ต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขั้นตอนทั้งหมดต้องทำภายใน24 ชั่วโมง แล้วรายงานมายังศูนย์ คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.) เพื่อเสนอสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเพื่อขอพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นการชั่วคราว โดย ศคพ. จะเร่งรัดให้มีการดำเนินวินัย ควบคู่กับการดำเนินด้านคดีอาญา 


นักเรียน นักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือพบปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน สามารถติดต่อร้องเรียน ร้องทุกข์ ได้ที่ สายด่วน 1579 หรือ เดินทางมาที่ศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.) บริเวณชั้น 1 อาคารรัชมังคลาภิเษก 2 กระทรวงศึกษาธิการ 

ด้านนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า ตั้งแต่ตั้งศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้มีผลการดำเนินการด้านการปราบปรามเป็นที่ประจักษ์ โดยมีผู้ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน และถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพชั่วคราว จนกว่าการดำเนินการทางวินัยจะเสร็จสิ้น จำนวน 13 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 1 ราย และระหว่างเด็กด้วยกัน จำนวน 2 ราย ซึ่งการปฏิบัติงานของศูนย์ฯ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นที่รับรู้ มีการสื่อสารกันในวงกว้าง ส่งผลดีต่อการไม่เกิดปัญหาใหม่ และปัญหาเก่าได้รับการสะสางด้วยความ รวดเร็ว รอบคอบ เด็ดขาด ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา และไว้วางใจต่อการแก้ไขปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”