อุบลราชธานี 16 ก.ค.-โชเชียลเดือดตามหาหนุ่มซิ่งจยย.ปาดหน้ารถกระบะสาวกู้ภัย จนชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ขณะที่พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ตามถ่ายคลิปคู่กรณีที่หลบหนีจนถูก จยย. พุ่งชนรถตัวเองเสียหาย
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ค.63 พ.ต.ท.สมอาจแคนเภาว์ สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าบริเวณศูนย์ฟอร์ด ถนนชยางกูร ขาเข้า ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง นางสาวฉันท์หทัย(น้องแพรว) เอี่ยมสังข์ทอง อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพคุณธรรมนำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี
สอบถามนายโหน่ง นามสมมุติ พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าน้องแพรว ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีขาว มาตามถนนชยางกรู ขาเข้าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถศูนย์ฟอร์ด มีรถจักรยานยนต์ทรงสปอร์ตของผู้ชายปาดหน้า รถของน้องแพรวอย่างกระชั้นชิด ทำให้น้องแพรวต้องเบรกกะทันหันรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนนจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีโดยไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจึงตัดสินใจขับรถไล่ติดตามพร้อมให้ภรรยาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน โดยรถจักรยานยนต์คู่กรณีได้หลบหนีเข้าไปในทางหมู่บ้านจนถึง 3 แยก รถจักรยานยนต์ได้เลี้ยวรถกลับจนเฉี่ยวชนรถของตนได้รับความเสียหายแล้วหลบหนีไปได้ ตนจึงได้กลับไปที่เกิดเหตุเพื่อดูอาการของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาลทันที จากการตรวจสอบภาพจากคลิปที่ถ่ายพบว่าทะเบียนของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นแบบพับ เห็นตัวเลขเพียง 1 กก 5795 จึงได้เอาหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามตัวมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.สมอาจ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่าจาการตรวจสอบฐานข้อมูลจากคลิปของพลเมืองดีพบว่าหมายเลขทะเบียนดังกล่าวเป็นของรถรุ่นอื่นไม่ใช่รถจักรยานยนต์สปอร์ต จึงยังไม่แน่ชัดว่าหมายเลขทะเบียนดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ หรือมีการสวมแผ่นป้ายทะเบียนหรือไม่อย่างไร ส่วนความผิดที่เกิดเบื้องต้นเป็นการขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ในทางสืบสวนมีพลเมืองดีให้ข้อมูลมาบ้างอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ล่าสุด ญาติน้องแพรว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานมิราเคิล อุบลราชธานี ได้นำร่างของน้องแพรวเดกินทางกลับบ้านเกิด ในอำเภอตระการพืชพล จังหวัดอุบลราชธานี มีเพื่อนบ้านและญาติเตรียมรอรับร่างของน้องแพรว ทันที่ร่างของน้องแพรวถึงบ้าน ญาติได้ทำการแต่งหน้า ทำเล็บของน้องแพรวเป็นครั้งสุดท้ายท่ามกลางความโศรกเศร้าต่อการจากไปอย่างไม่ทันที่จะตั้งตัว
นางสาวปาณิศา มีทองคำ อายุ34 ปี พี่สาว และ นางคำผ่องศรี ทองมา อายุ 50 ปี น้าสาว เล่าว่าน้องแพรวเป็นเด็กดี นิสัยดีเป็นที่รักของชุมชนและคนในครอบครัว มีใจรักการช่วยเหลือทำงานช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องไม่เคยทำให้ครอบครัวต้องช้ำแม้แต่ครั้งเดียว การสูญเสียครั้งนี้ยังไม่มีใครตั้งตัวรับได้ นางสาวปาณิศา ยังเล่าอีกว่าก่อนหน้านี้เคยคุยกันกับพ่อน้องแพรวหากคู่กรณีที่ขับรถจักรยานยนต์เข้ามามอบตัวก็จะไม่เรียกร้องอะไรแต่ขอให้มารับผิดชอบ แต่ตอนนี้คงต้องเป็นไปตามกฎหมาย
นายเอนก อาธิเวช เพื่อนรุ่นพี่ เล่าว่าน้องแพรวเป็นอาสาสมัครของศูนย์ประสานมา 3 ปี น้องเป็นคนดีทำความดีมาโดยตลอด หน่วยงานอาสาสมัครรู้จักทุกคน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองพูดไม่ออกไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่อยากจะฝากไปยังคนที่ขับจักรยานยนต์ว่าให้ออกมารับผิดชอบ หากคุณหนีกฎหมายได้คุณก็หนีตราบาปไม่ได้ หากเป็นลูกผู้ชายพอให้ออกมารับผิดชอบเรื่องเกิดขึ้นดีกว่า.-สำนักข่าวไทย